จับตา!! บรรดา ‘งูเห่า-อนาคอนดา’ ส่อแว้งฉก ‘เพื่อไทย’ อาจพลิกเกมหนุน ‘ลุงตู่’ คนเดิม หากผลประโยชน์ไม่ลงตัว

ผ่านมาได้ 20 วัน กระบวนท่าและขบวนทัพการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลอย่างไร้รอยต่อ ของ 8 พรรค 312 เสียง ยังดำเนินไป ซึ่งในวันที่ 30 พ.ค.นี้ จะมีการนัดเจรจาหารือกันที่พรรค 9 เสียง คือ ‘พรรคประชาชาติ’ ด้วยความเชื่อกันว่าบรรยากาศต่างๆ จะดีขึ้น หลังจาก ‘ประดาบ’ กันมา 2 สัปดาห์…

ถึงวันนี้จับความได้ว่า… สองพรรคใหญ่คือ ก้าวไกลกับเพื่อไทยยังตกลงปลงใจกันไม่ได้ว่า ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร จะเป็นของใคร… ขณะที่ข่าวการจัดตั้งรัฐบาลสูตร 14+1 ที่หมายถึง ก้าวไกลเอาไป 14 รัฐมนตรีกับ 1 นายกรัฐมนตรี เพื่อไทยเอาไป 14 รัฐมนตรีกับ 1 ประธานสภานั้น เชื่อกันว่า น่าจะถูกโยนออกมาจากฝั่งพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่จากฝั่งพรรคก้าวไกลอย่างแน่นอน เพราะวันนี้ ‘ด้อมส้ม’ ยังยืนกรานให้ก้าวไกลยึดเก้าอี้ประธานสภาไว้ให้มั่น…

อย่างไรก็ตาม ‘เล็ก เลียบด่วน’ ยังขอแทงหวยเหมือนเดิมว่า ประธานสภาจะเป็นของพรรคเพื่อไทย โดยมี ชลน่าน ศรีแก้ว คือ เต็งหนึ่ง, สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ คือ เต็งสอง, สุชาติ ตันเจริญ คือเต็งสาม…

แต่ถ้าพรรคก้าวไกลไม่ยอม แล้วเกมไถลไปถึงขั้นฟรีโหวต รับรองพรรคก้าวไกลก็ไม่ได้กิน โอกาสยังเป็นของพรรคเพื่อไทยอยู่ดี และดีไม่ดี เกมอาจพลิกไถลไปเป็นของอีกฝั่ง ดังนั้น ในที่สุดพรรคก้าวไกลก็คงต้องยอมพรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทยเองก็จะโอบอุ้มนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไปถึงที่ประชุมรัฐสภา เพื่อโหวตชิงนายกฯ ซึ่ง ‘เล็ก เลียบด่วน’ ได้ฟันธงไปแล้วว่าเสียงโหวตพิธาจะไม่ถึง 376 เสียง… สอบไม่ผ่าน…

เมื่อพิธาสอบไม่ผ่าน ไปไม่ถึงดวงดาว โอกาสก็เป็นของพรรคเพื่อไทยที่จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งท้ายที่สุด สูตรหลักก็คือ จับมือข้ามขั้วกับภูมิใจไทย พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา… ยอมถูกด่าว่าผสมพันธุ์กับพรรคลุง… มุ่งหน้าทำงานสร้างผลงานทดแทนเสียงด่า

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าจับตาเป็นพิเศษในพรรคเพื่อไทยยามนี้ ก็คือทิศทางความเป็นไปของพรรค หลังจากพรรคพ่ายแพ้หมดรูปเหลือ 141 เสียง แยกเป็น ส.ส.เขต 112 บัญชีรายชื่อ 29 สายข่าว รายงานว่า แนวคิดของปีกคนรุ่นใหม่ที่นำโดย ‘อุ๊งอิ๊ง’ นั้น ต้องการให้ยกเครื่องพรรคครั้งใหญ่ ซึ่งตามแนวทางจะกระเทือนกับบรรดาผู้เฒ่าชแรแก่ชราในพรรคกันโดยทั่วถ้วน

ดังนั้น วาระนี้บรรดาซุ้มบ้านใหญ่ ส.ส.ผู้เฒ่าทั้งหลายโดยเฉพาะ 70 กว่าคนจากภาคอีสาน คงจะสำแดงเดช ต่อรองผลประโยชน์กันเต็มแม็กซ์… และหากพรรคไม่ตอบสนอง โอกาสที่จะเกิดการรวมตัวรวมมุ้ง พลิกเกมไปหนุนขั้วรัฐบาลเดิม ก็อาจมีโอกาสเกิดขึ้นได้ไม่ยาก

ดูเหมือนว่า ‘เดอะเต้น’ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ผู้ช่วยหาเสียงกิตติมศักดิ์ของพรรคเพื่อไทยจะจับสัญญาณและส่งสัญญาณได้ชัดกว่าใครเพื่อน ว่าขณะที่ฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค ต้องการอีก 65 เสียงเพื่อให้ผ่าน 376 เสียง ฝ่ายอนุรักษ์หรือขั้วรัฐบาลเดิม 118 เสียง ต้องการอีกเพียง 62 เสียง เพื่อให้ครบ 250 เสียงเพื่อพลิกเกมจัดตั้งรัฐบาล ได้ 250 เสียง ส.ส.เมื่อไหร่ บรรดา ส.ว.250 คนก็พร้อมจะโหวตหนุนให้เป็นนายกฯ และตั้งรัฐบาล… ดีไม่ดี นายกฯ คนนั้นอาจจะชื่อ “ประยุทธ์” ณ รวมไทยสร้างชาติ คนเดิม....

ตามไทม์ไลน์ที่ ดร.วิษณุ เครืองาม กางเอาไว้นั้น คือ วันที่ 25 ก.ค. จึงจะถึงวันเลือกประธานสภา เดือนหน้า มิ.ย.และต้นเดือน ก.ค. ก็ทยอยรับรองผลเลือกตั้งไปเรื่อยๆ วันไหนที่มีการรับรองผลและไปรายงานตัวเรียบร้อย วันนั้นแหละ บรรดา ส.ส.ของแต่ละพรรคจะสำแดงฤทธิ์เดช… โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของพรรคเพื่อไทย หากจัดสรรผลประโยชน์ไม่ลงตัว ดังกล่าวมา อะไรก็เกิดขึ้นได้..ปรากฎการณ์งูเห่าอาจจะน้อยไป อาจจะถึงขั้นอนาคอนดากันเลยทีเดียว.. หมอมิ้งค์,หมอชลน่าน,บิ๊กอ้วน,คุณอุ๊งอิ๊ง… โปรดอย่ามองข้ามความปลอดภัยเป็นอันขาด สิบอกให้!!

เรื่อง : เล็ก เลียบด่วน