ชำแหละ!! 5 เขตเลือกตั้ง ‘เมืองคอน’  ใครจะเสยคางใคร หลังรู้เชิงกันแล้ว 

ชำแหละ 5 เขตเลือกตั้งเมืองคอน มวยยก 3 แลกหมัดกันสนุกแน่ หลังรู้เชิงกันแล้ว จับตายกสุดท้ายใครจะเสยคางใคร

หลังมีความสุขกับช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์ เรามาทบทวนกันอีกครั้งสำหรับ 10 เขตเลือกตั้งของนครศรีธรรมราช ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง 20 กว่าวัน ก็จะได้เวลาประชาชนพิพากษา 14 พฤษภาคม...ถ้าหากเรียกเป็นภาษามวย ก็ถือว่าเข้าสู่ยกที่ 3 เข้าให้แล้ว

>> เขต 1 
เมืองในเขตเทศบาลนคร ที่มี ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ เป็นแชมป์อยู่ในนามพรรคพลังประชารัฐ ถ้ามองผิวเผินเหมือนจะเป็นการแข่งขันกันของ 4 พรรคใหม่ คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ส่ง ‘พูน แก้วภราดัย’ ลูกชายของ ‘น้อย-วิทยา แก้วภารดัย’ ส่วนประชาธิปัตย์ ส่งอดีตผู้ว่าฯ ‘ราชิต สุดพุ่ม’ พรรคพลังประชารัฐ ส่ง ‘ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ’ และ พรรคภูมิใจไทย ส่งอดีตนักการธนาคาร ‘จรัญ ขุนอินทร์’ 

แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปในรายละเอียด น่าจะเป็นการต่อสู้กันระหว่าง ‘ดร.รงค์’ กับ ‘ราชิต’ เป็นหลัก ซึ่งราชิต อาศัยฐานเดิมของประชาธิปัตย์ ที่มีทุนเดิมอยู่บ้างแล้วอย่างน้อยเขตละ 10,000 เพียงแต่จะทำอย่างไรให้คะแนนต่อยอดไปถึง 30,000 นั้น หมายถึงหาเพิ่มอีก 20,000 คะแนน ซึ่งความเป็นอดีตนายอำเภอเมือง และสายสัมพันธ์กับชุมชนในฐานะอดีตนักปกครอง ก็น่าจะพอฟัดพอเหวี่ยงกับ ดร.รงค์ ที่มีฐานเสียงเดิมในฐานะแชมป์ หลังจากในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา มีทั้งจุดด้อย และจุดเด่น จนเมื่อได้ ‘โกเก้า’ เกรียงศักดิ์ ภู่พันธุ์ตระกูล ผู้กว้างขวางในวงการเมืองเข้ามาจับมือกับ โกจู๋-วิฑูรย์ อิสระพิทักษ์กุล ช่วยกันประสานมือทำคะแนนให้กับ ดร.รงค์ จึงทำ ดร.รงค์ เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวขึ้นมาทันที แต่ราชิตก็ได้ ‘ลุงนึก’ สมนึก เกตุชาติ อดีตนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชเข้ามาช่วย ทำให้แข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาลุงนึกไม่เอาประชาธิปัตย์เลย แต่คราวนี้หนีไปพ้นเมื่อญาติสนิทลงชิง

ฉะนั้น ราชิต คงต้องหาตัวช่วยที่เข้มแข็งเข้ามาช่วยทำงาน ทั้งคนในและคนนอกพื้นที่ที่มีบารมีพอฟัดพอเหวี่ยงกับสองโกเพื่อเดินไปสู่เป้าหมาย ‘ล้มรงค์’ ซึ่ง ดร.รงค์ก็เป็นนักวิชาการสายรัฐศาสตร์ชั้นเชิงทางการเมืองก็ไม่ธรรมดา เอาเป็นว่า ‘รู้เขารู้เรา’

>> เขต2 
ถือเป็นเขตปลอด ส.ส.เก่า คือ ไม่มีเจ้า แต่ ‘สายัณห์ ยุติธรรม’ ย้ายจากท่าศาลา มาลงเขตนี้ และย้ายพรรคจากพลังประชารัฐมาอยู่กับ ‘ลุงตู่’ ที่รวมไทยสร้างชาติ เพื่อเปิดทางให้น้องชาย ‘อำนวย ยุติธรรม’ ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในบ้านเกิดท่าศาลา ซึ่งสายัณห์แม้จะเป็นอดีต ส.ส.แต่คนละเขต แม้เขตใหม่จะเป็นฐานเดิมอยู่บ้าง แต่ไม่ทั้งหมด สายัณห์ต้องสร้างฐานใหม่ย่านพระพรหม ซึ่งก็มีอัตราเสียงอยู่ไม่น้อย 

ทว่าแม้เจ้าตัวจะยืนยัน 4 ปีมีผลงาน และคนรู้จัก แต่เมื่อมาดูคู่แข่งแล้ว จะพบว่า ประชาธิปัตย์ลงตัวที่ ‘นายกหนึ่ง’ นายทรงศักดิ์ มุสิกอง อดีตนายกฯ ปากนคร ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะได้สร้างขึ้นมาสืบทอดเจตนารมณ์-อุดมการณ์ของประชาธิปัตย์ต่อไป ส่วนด้าน พรรคพลังประชารัฐ ‘สจ.สุภาพ ขุนศรี’ ยอมหลีกให้ ดร.รงค์ มาลงเขตนี้ โดยสจ.สุภาพ ออกจาก เครือข่ายผู้นำท้องถิ่น-ท้องที่แล้ว จะต้องอาศัยเครือข่ายของสามี สายนักเลง นักการพนัน แต่เป็นคนต่างถิ่น เอาเป็นว่าเขตนี้ ‘สายัณห์-สจ.สุภาพ’ หายใจรดต้นคอกันเป็นแน่แท้ ส่วนทรงศักดิ์ อยู่ที่องคาพยพของประชาธิปัตย์ จะช่วยกันหอบหิ้วได้แค่ไหน ถ้าประชาธิปัตย์ตั้งเป้าว่านครศรีฯจะต้องได้ 7+ ‘แทน-ชัยชนะ เดชเดโช’ จะต้องออกแรงมากกว่านี้ นายกฯ หนึ่งถึงจะเข้าวิน

กล่าวสำหรับพระพรหมแล้ว ถือว่าทุกคนใหม่หมด สจ.สุภาพ มาจากเขตเมือง นายกฯ หนึ่งมาจากปากนคร สายัณห์มาจากท่าศาลา โอกาสจึงเป็นของทุกคน สายัณห์อยู่ในฐานะได้เปรียบ เพราะมีฐานเดิมอยู่บ้างในบางตำบล

>> เขต 3 (หัวไทร-ปากพนัง) 
แม้ ‘เท่ห์-พิทักษ์เดช เดชเดโช’ ลูกชายของ ‘เจ้ต้อย-กนกพร เดชเดโช’ นายกฯอบจ.นครศรีฯ น้องชายของแทน-ชัยชนะ เดชเดโช จะเปิดตัวทีหลัง แต่ก็มาแรงแซงขึ้นที่ 1 อย่างรวดเร็ว วิ่งฉิวนำหน้า ขณะที่ ‘มานะ ยวงทอง’ จากภูมิใจไทย ที่เปิดตัวมาร่วมปี และเป็นที่รู้จักมักคุ้นกันแล้ว แต่ม้าตีนต้นเริ่มแผ่วปลายกับการบริหารจัดการในบางเขต-บางโซน แม้บางเขตจะยังเหนียวแน่นกับเครือญาติก็ตาม แต่บางองคาพยพเริ่มเปลี่ยนค่ายบ่ายหน้าไปค่ายสีฟ้า 

ส่วนพลังประชารัฐ ส่ง ‘สัณหพจน์ สุขศรีเมือง’ ซึ่งเป็นแชมป์เก่า ดูภาพรวมแล้วไม่หวือหวา กระสุนยังไม่ออก ก็เหนื่อยหน่อย ฐานคะแนนเดิมเริ่มถูกแย่ง-ถูกแบ่งแยก สถานการณ์ปัจจุบันเงียบไปนิดหนึ่ง ส่วนรวมไทยสร้างชาติส่ง ‘นนทิวรรธน์ นนทภักดิ์’ คนสนิทของวิทยาลงประชัน ซึ่งนนทิวรรธ์ มีฐานเสียงที่หน้าแน่นอยู่ในตลาดปากพนัง เป็นด้านหลัก แต่โซนหัวไทรยังเป็นจุดบอด ถ้ามีเวลาให้เตรียมตัวมากกว่านี้ และใช้เครือข่ายวิทยาเดินเครื่อง ก็น่าสนใจ เพราะเป็นผู้สมัครเพียงคนเดียวที่เป็นคนพื้นที่ เกิดที่ปากพนัง ขณะที่ พิทักษ์เดช เกิดที่ร่อนพิบูลย์ แต่มีภรรยาคนปากพนัง, สัณหพจน์ เกิดที่เชียรใหญ่ แต่เคยคลุกคลีกับธุรกิจกุ้งในวัยหนุ่ม, มานะ เกิดที่เชียรใหญ่ ไม่ค่อยได้อยู่ในพื้นที่ทำธุรกิจกล่องกระดาษอยู่สมุทรสาคร และชลบุรี ในช่วงโควิดระบาดหนักเขาจึงบริจาคกล่องกระดาษทำเตียงสนามจำนวนมาก และผันตัวเองมาลง ส.ส.

>> เขต 3 
ไม่ควรมองข้าม ‘มนตรี เฉียบแหลม’ จากเพื่อไทย ที่คนเริ่มเบื่อพรรคโน้นพรรคนี้ และมองหาพรรคใหม่ เพื่อไทยจึงเป็นตัวเลือกอยู่ไม่น้อย น่าเสียดายว่า เพื่อไทยเปิดตัวเขาให้ลงเขตนี้ช้าไป แต่กระแสเพื่อไทยพอมี คะแนนพรรคมีแน่นอน และตัวเลขไม่น่าเกลียดด้วย ฉะนั้นเขต 3 ด้วยเครือข่ายที่มากกว่า เหนียวแน่นกว่า ถึงกว่า ท้ายที่สุดแล้ว ‘โกเท่ห์’ จะเข้าป้าย แต่ตัองระวัง-หลีกเลี่ยงข้อสุ่มเสี่ยง

>> เขต4 (ชะอวด-เชียรใหญ่-เฉลิมพระเกียรติ)
น่าจะเป็นเขตที่สู้กันดุเดือด มีคู่แข่งหลักอยู่ 5 พรรค แชมป์เก่าคือ ‘อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ’ ยังสังกัดพรรคพลังประชารัฐเหมือนเดิม และมั่นใจในผลงาน บทบาทหน้าที่ที่ผ่านมา สองปี ส่วน ประชาธิปัตย์ ส่ง ‘ยุทธการ รัตนมาศ’  อดีตรองนายกฯ อบจ.นครศรีธรรมราช เคยมีข่าวโด่งดังในตำแหน่งนายกสมาคมกีฬานครศรีธรรมราช

ฟากพรรคชาติพัฒนากล้า ส่ง ‘นายหัวสิทธิ์’ สิทธิรัก ทิพย์อักษร ที่เคยปรากฏชื่อว่าจะลงรวมไทยสร้างชาติ แต่ท้ายที่สุดด้วยพลังที่เหนือกว่า พงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ คว้าใบอนุญาตไปลงแทน ขณะที่ภูมิใจไทย ส่ง ‘ณัฐกิตติ์ หนูรอด’ อดีตปลัด อบจ.พัทลุง ลูกเคร็งโดยตรงลงชิง เปิดตัวมาครึ่งปี และลาออกจากราชการมาหาเสียงนานพอควร กระแสพอได้ แต่ไม่หวือหวานักพรรคพลังประชารัฐ ให้ติดตามการขยับของ ‘โกอ่าง-สมศักดิ์ เมธา’ พรรคเพื่อไทย ที่คนชะอวด จุฬาภรณ์ ทราบกิตติศัพท์ดี ในฐานะ ‘เจ้าบุญทุ่ม’

เขตนี้โค้งสุดท้ายน่าจะเป็นการแข่งขันระหว่างพงศ์สินธุ์ กับอาญาสิทธิ์ แต่ขึ้นอยู่กับว่าใครจะจัดการคะแนนได้ดีกว่า แต่กระแสพงศ์สินน่าจะดีกว่าเมื่อบวกรวมกับกระแสคนคอนยังเอา ‘ลุงตู่’ แต่ไม่ควรลืมว่าเขตนี้เป็นเขตอิทธิพลของชัยชนะ เดชเดโช คงไม่ปล่อยให้ยุทธการพ่ายง่ายๆ เป็นแน่แท้ เพราะมีตำแหน่งทางการเมืองในวันหน้ารออยู่

>> เขต 5 (จุฬาภรณ์-ร่อนพิบูลย์-ลานสภา) 
ถือได้ว่าเป็นเขตเดิมของ ‘แทน-ชัยชนะ’ ประชาธิปัตย์ เพียงแต่เพิ่มจุฬาภรณ์เข้ามาและตัดบางอำเภอออกไป ยิ่งเป็นผลดีสำหรับแทน เพราะจุฬาภรณ์ คือ ถิ่นของ ‘ชำนิ ศักดิเศรษฐ์’ นักการเมืองอาวุโสและเป็นญาติกับแทนด้วย

น่าสนใจที่รวมไทยสร้างชาติ ดึง ‘สนั่น พิบูลย์’ สจ.จุฬาภรณ์มาร่วมทีมได้ เมื่อบวกรวมกับพลังประชารัฐลากกำนัน ‘สุชาติ จิตติศักดิ์’ กำนันแหนบทองคำ อดีตกำนันตำบลนาหมอบุญ อำเภอจุฬาภรณ์ มาลงเขตนี้ และยังมี สจ.ยา-พิทยา ชมพูทอง แห่งลานสกา มาช่วยทีม สจ.หนั่น ก็เท่ากับเป็นการปิดล้อมแทน ให้ขยับตัวออกนอกเขตไปช่วยลูกทีมลำบากขึ้น แต่ก็ไม่น่าจะไหวหวั่นอะไร ให้ระวังพวกกันเองมากกว่าว่าจะยังซื่อสัตย์อยู่ไหม

เขตนี้ ‘แทน-ชัยชนะ’ ได้เปรียบ และคงไม่ทำให้เสียหายกับพรรค และวงศ์ตระกูลแน่นอน ในเมื่อทุกอย่างในมือพร้อม รถถังพร้อมเคลื่อนออกจากกองทัพในยามมีศึก

รอบนี้เอา 5 เขตเลือกตั้งก่อน อีก 5 เขต ข้อศึกษาข้อมูลก่อน แล้วจะรายงานให้ทราบ

แต่สรุปภาพรวมว่า 5 เขต เป็นดังนี้...

เขต 1 ดร.รงค์ ชิงดำกับราชิต แบบรดต้นคอ
เขต 2 สายัณห์ ห้ำหั่นกับ สจ.สุภาพ
เขต 3 โกเท่ห์ น่าจะนำห่าง ให้ ‘มานะ-มนตรี’ ตามไล่หลังมา
เขต 4 ชิงดำกันระหว่าง ‘พงศ์สิน-อาญาสิทธิ์’
เขต 5 แทนลอยลำแบบไม่เห็นฝุ่น

แต่ที่ไม่ควรลืม การเมืองเป็นเรื่องไม่แน่นอน-ตายตัว มีโอกาสเปลี่ยนได้ตลอดเวลา อยู่ที่ว่ายกสุดท้ายใครจะชกได้เข้าเป้ามากกว่ากัน คะแนนสะสมในแต่ละยกอาจจะไม่มีความหมายเลยก็ได้ ถ้าเจอหมัดน็อก!! เข้าปลายค้าง…555


เรื่อง: นายหัวไทร