ประชาธิปไตยของแมลงวัน มองการเมืองตาม ‘พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท)’ เมื่อเสียงข้างมาก ‘อาจ’ ไม่ใช่ฝ่ายที่ถูกต้องเสมอไป

                   

หลวงปู่ชา สุภทฺโท ขณะมีชีวิตอยู่ท่านได้อุทิศชีวิตเพื่อการปฏิบัติธรรมและเผยแผ่พุทธศาสนา ทั้งแก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ซึ่งบังเกิดผลทำให้ผลงานที่เป็นประโยชน์อเนกอนันต์แก่พระศาสนา ทั้งที่เป็นพระธรรมเทศนา และสำนักปฏิบัติธรรมในนามวัดสาขาวัดหนองป่าพงมากมาย ซึ่งแม้ท่านจะมรณภาพไปนานแล้ว แต่ศิษยานุศิษย์ของท่านก็ยังคงรักษาแนวทางปฏิบัติธรรมที่ท่านได้สั่งสอนไว้จนถึงปัจจุบัน

                              

หลวงปู่ชา แห่งวัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี  เคยพูดเรื่องประชาธิปไตย พอสรุปได้ว่า... 

"...ประชาธิปไตย คือ เสียงของคนหมู่มาก ไม่ถูกต้องเสมอไป  หากคนหมู่มากนั้น ไม่มีปัญญา..."  

แสดงว่า ท่านยอมรับเสียงข้างมาก แต่มีข้อแม้ว่า ต้องเป็นเสียงข้างมากของคนดี การตัดสินด้วยหลักประชาธิปไตยบางครั้งก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป ถ้าไม่เอาหลักธรรมาธิปไตยเข้าไปตัดสิน
                                  

ครั้งหนึ่งมีโยมเข้าไปกราบหลวงพ่อแล้วนำเรื่องการเมืองเข้าไปสนทนาด้วย

โยม : หลวงพ่อครับผมว่ามีประชาธิปไตยก็ดีนะครับ ผู้คนจะได้เคารพในการตัดสินใจของคนหมู่มากเป็นหลัก
หลวงพ่อชา : มันก็ไม่ถูกต้องเสมอไปหรอกโยม
โยม : ไม่ถูกต้องยังไงครับ

                     

หลวงพ่อชา : ยกตัวอย่าง มีแมลงวัน 20 ตัว มีแมลงผึ้ง 10 ตัว มาลงมติกันกับของ 2 สิ่งได้แก่ 1) อุจจาระ และ 2) น้ำผึ้ง เมื่อใดที่ลงมติว่าอะไรหอม แมลงวันจะชนะทุกครั้งถ้าพูดเรื่องอุจจาระ แต่ถ้าเปลี่ยนหัวข้อเป็นน้ำผึ้ง ตัวผึ้งแพ้ทุกครั้ง ด้วย 2 เหตุผล คือ 1) จำนวนน้อยกว่า และ 2) ความหอมหวานของน้ำผึ้ง เปลี่ยนเจตคติของแมลงวันไม่ได้ 

แม้ว่า...ตัวผึ้งนั้น จะวินิจฉัยถูกต้อง แต่แพ้เสียงส่วนมาก ถ้าพูดตามหลักประชาธิปไตยแมลงวันชนะแมลงผึ้ง เพราะคะแนนเสียงมากกว่า แมลงผึ้งแพ้เพราะคะแนนเสียงน้อยกว่า

ในเมื่อเราเป็นมนุษย์ที่ขึ้นชื่อว่า เป็นสัตว์ประเสริฐมีปัญญามากกว่าสัตว์เหล่านั้นเป็นเเน่แท้ ดังนั้น...เราจึงควรจะเชื่อใครดี

อีกหนึ่งเดือนจะเลือกตั้งแล้ว ก่อนที่จะใช้สิทธิของท่าน โปรดได้ พินิจ พิเคราะห์ พิจารณา ทบทวนให้ดีและถี่ถ้วน เพราะทุกคะแนนเสียงล้วนแล้วแต่มีคุณค่ามหาศาล เราจะใช้สิทธิเยี่ยงแมลงวันหรือผึ้ง ล้วนแล้วแต่เป็นสิทธิของตัวท่าน แต่อยากให้ท่านทั้งหลายได้ไต่ตรองให้มาก ๆ ว่า เพื่อให้บ้านเมืองเจริญวัฒนาสถาพรยั่งยืนตลอดไปนั้น เราจำเป็นต้องมี ‘คนดี’ และ ‘พรรคการเมืองที่ดี’ มากำกับและขับเคลื่อน ไม่เช่นนั้นแล้ว ‘วงจรอุบาทว์’ ก็จะกลับมา ไม่รู้จักจบและหมดสิ้นไปจากบ้านเมืองของเรา