'พลังประชารัฐ' ล้มดีลลับ 'เพื่อไทย' แค่เกมปรับกระบวนท่า ดูลมบนการเมือง

ทำเอาวงการการเมือง 'ช็อกซีนีมา' ไปพอประมาณ เมื่อไพบูลย์ นิติตะวัน มือกฎหมายและรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกมาแถลงเสียงดังฟังชัดเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ว่า พรรคพลังประชารัฐจะไม่ขอร่วมงานทางการเมืองหรือร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย....

เหตุเพราะพรรคก้าวไกลนั้นมีจุดยืนชัดเจนที่จะแก้มาตรา 112 ซึ่งพลังประชารัฐไม่เห็นด้วย ส่วนพรรคเพื่อไทยก็ไม่แสดงจุดยืนที่ชัดเจน อีกทั้งกรณีการเสนอนโยบายแจกเงินดิจิตัล 1 หมื่นบาท ถือเป็นนโยบายที่อันตรายสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาใหญ่...

หะแรก...ทั้งนักข่าวและคนโตในพรรคให้ค่าเพียงความเห็นส่วนตัวของไพบูลย์ แต่วันที่ 11 เม.ย.เมื่อ 'ลุงป้อม' พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกมาปั๊มตราประทับรับรองสั้นๆว่า "นโยบายไม่ตรงกัน..."

ผู้สันทัดกรณีแทบจะวิเคราะห์ไปในทิศทางเดียวกันว่า...ความพยายามเดินทางแนวทางสายกลางในนามของการ 'ก้าวข้ามความขัดแย้ง' ทำให้ผู้คนไม่น้อยตีความและเชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐมีดีลลับจะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยนั้น รังแต่จะทำให้พรรคตกต่ำในสถานการณ์ที่กระแสหลักของการเลือกตั้งเริ่มโน้มเอียงถูกลากไปในทางการเมืองสองข้างสองขั้ว...คล้ายๆ กับปี 2562...เอาทักษิณกับไม่เอาทักษิณ...อะไรประมาณนั้น...

“เราถูกกล่าวหามาโดยตลอดเรื่องดีลลับว่าจะจับมือกับพรรคเพื่อไทย ตอนแรกคิดว่าจะค่อยๆ เงียบหาย แต่มันไม่เป็นอย่างนั้น วันนี้ก็เลยต้องประกาศให้ชัด...” นี่คือคำให้สัมภาษณ์ของไพบูลย์   

แต่ทั้งนี้นายไพบูลย์ก็ยืนยันว่าลุงป้อมและพรรคพลังประชารัฐยังยึดมั่นในแนวทางก้าวข้ามความขัดแย้ง...และมั่นใจว่าถึงอย่างไรลุงป้อมก็จะได้รับการโหวตจากรัฐสภาให้เป็นนายกฯ คนที่ 30 อย่างแน่นอน...

ความเชื่อของไพบูลย์สอดคล้องบางมิติกับ ไพศาล พืชมงคล อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกุนซือของลุงป้อมที่ไปออกรายการทีวีแล้วฟันธงเสียงดังฟังชัดเมื่อวันที่ 7 เม.ย.ว่า...ลุงป้อมจะเป็นนายกฯ คนที่ 30 เพราะพลังประชารัฐกับพรรคภูมิใจจับมือเป็นขั้วอำนาจที่สามแล้ว..และต่อให้พรรคเพื่อไทยรวมเสียงได้เกิน 250 ก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ ท้ายสุดต้องมาร่วมรัฐบาลกับลุงป้อม...

ทั้งไพบูลย์และไพศาลจะหลุดเฟรมไปหรือไม่ก็ไม่ทราบได้...เพราะขณะนี้สิ่งที่พล.อ.ประวิตรพูดกับคณะผู้สื่อข่าวที่ไปสัมภาษณ์หลายคณะและรวมทั้งข้อตกลงกับอนุทิน ชาญวีรกูล ตามข้อตกลงป่ารอยต่อเมื่อ 22 มี.ค.ก็คือ...พรรคไหนใครได้คะแนนมากกว่าก็ให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล...

แต่ก็นั่นแหละปฎิญญาหรือข้อตกลงทางการเมืองก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้...เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป...

สรุปได้ว่าการถอยมาหนึ่งก้าวของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อประกาศจุดยืนไม่ผสมพันธุ์กับพรรคก้าวไกลและเพื่อไทย จึงเป็นการเรียกศรัทธาที่สูญหายไปให้กลับคืนมาได้บ้าง...และแหล่งข่าวระดับสูงยิ่งระบุว่า ท่าทีดังกล่าวนี้..ได้เกิดขึ้นหลังจากแกนนำพรรคบางคนได้ตรวจสอบสภาพอากาศและทิศทางลมบนของการเมืองในขณะนี้แล้ว...!!

จึงต้องปรับตัวให้สอดคล้องสภาพดินฟ้าอากาศ...

แต่เชื่อหรือไม่ว่า ในเกมลึกๆ นั้นไพ่ใบสุดท้าย...ใบสำคัญที่จะโหวตให้ลุงป้อมเป็นนายกฯ ก็คือเสียงจากส.ว.ส่วนหนึ่ง และเสียงจากพรรคเพื่อไทยที่ถูกหมากบังคับ...

ภาพที่เห็น เสียงที่ได้ยินตอนนี้เท็จบ้างจริงบ้างอย่าได้ปักใจเชื่อไปเสียทั้งหมดน่ะครับ

เรื่อง: เล็ก เลียบด่วน