ปัญหาใหญ่ของโลก คนรุ่นใหม่คลั่ง ‘ลัทธิปัจเจกชนนิยม’ ขั้นรุนแรง จนขาดความเข้าใจใน ‘ลัทธิเสรีนิยม’

คนรุ่นใหม่และพรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ ซึ่งคลั่งไคล่ใน Individualism (ลัทธิปัจเจกชนนิยม) อย่างรุนแรง มีวิธีคิดและการปฏิบัติที่ล้ำเส้นของ Liberalism (ลัทธิเสรีนิยม) ที่ได้นำมากล่าวอ้างจะทำให้สังคมอยู่อย่างสงบสุขได้ยากมากขึ้น

เมื่อมีคนกลุ่มหนึ่งในสังคมไทยกำลังพยายามทำให้ Individualism กลายเป็นกระแสหลัก ซึ่งที่สุดเมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้น สังคมก็จะต้องพบกับปัญหาต่าง ๆ เยอะแยะมากมายที่จะตามมา

เรื่องแรกคือ...การตรากฎหมายใหม่ ๆ จะทำได้ยากมากขึ้น เพราะการตรากฎหมายมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครอง Public interest (ผลประโยชน์สาธารณะ) ซึ่งตรงข้ามกับ Individual requirement (ความต้องการของแต่ละปัจเจก)

คนกลุ่มนั้นเองที่จงใจบิดเบือน โดยกล่าวอ้างถึงความเป็น Liberalism (ลัทธิเสรีนิยม) แต่เปล่าเลย สิ่งซึ่งคนเหล่านั้นแสดงออก และเรื่องต่าง ๆ ที่คนเหล่านั้นพูดและทำล้วนแล้วแต่เป็นเรื่อง Individualism ทั้งหมดทั้งสิ้น

อันที่จริงแล้ว Individualism เป็นลัทธิที่เบี่ยงเบนไปจาก Liberalism (ลัทธิเสรีนิยม) มาก เพราะแม้ Liberalism จะเน้นถึงเสรีภาพ แต่ก็ยังยอมรับว่า ทุกคนจะต้องอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ที่คุ้มครองประโยชน์ส่วนรวมของสังคม แต่ Individualism นั้นกลับไปเน้นที่เสรีภาพของปัจเจกบุคคล โดยยึดปัจเจก (ตนเอง) เป็นศูนย์กลาง โดยไม่ถึงความผิด ชอบ ชั่ว ดี ตามบรรทัดฐานของสังคม ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก ๆ

เพราะกระแสของ Individualism จะทำให้เกิดปรากฏการณ์ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยอ้างเหตุผลว่า การปฏิบัติตามกฎหมายหรือการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่นั้น ขัดต่อ Free will (เจตจำนงเสรี) อันเป็น Fundamental right (สิทธิขั้นพื้นฐาน) ของ Free people (เสรีชน) ซึ่งจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยพยายามเรียกกันให้ดูดีว่า อารยะขัดขืน (Civil disobedience) และใช้ช่องทางกฎหมายที่มีอยู่ในการต่อสู้ หากไม่ชนะคดีก็จะกล่าวหาว่า กฎหมายไม่เป็นธรรม หรือกระบวนการยุติธรรมไม่เป็นธรรม เพื่อสถาปนาความชอบธรรมให้แก่ข้ออ้างของตนเอง ซึ่งตอนนี้ก็เห็นกันมากมายเกิดขึ้นทั้งโลก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบ้านเมืองของเราในห้วงเวลาที่ผ่านมาไม่นาน

ภาวะเช่นนี้อันตรายต่อความเป็นอยู่ (Existing) ของรัฐ แต่ใครก็ตามที่โต้แย้งปรากฏการณ์เช่นนี้จะถูก Classify (จัดประเภท) ว่าเป็นบุคคลจำพวกอำนาจนิยมโดยอัตโนมัติ และเป็นฝ่ายตรงข้ามของคนรุ่นใหม่ เพราะแนวคิดของ Individualism จะให้น้ำหนักแก่ Individual interest (ผลประโยชน์ของแต่ละปัจเจก) โดยไม่สนใจ Public interest ระบบกฎหมายมหาชนจึงถูกท้าทายและทดสอบโดยมีความถี่มากขึ้น แล้วต่อไปการตรากฎหมายเพื่อกลุ่มผลประโยชน์ยิบย่อยก็จะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ จนน่าจะทำให้เกิดความขัดแย้งกันเองระหว่างกฎหมายเก่าที่มุ่งรักษา Public interest กับกฎหมายใหม่ที่สนับสนุน Individualism เหล่านี้เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและกระจัดกระจาย แต่ก็ชัดเจนมากขึ้น

 

ดังนั้นคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ หากเชื่อในความเป็น Liberalism จะต้องมีและใช้ สติ และ ปัญญา ในการกำกับ และต้องเป็นไปด้วยความถูกต้องตามบรรทัดฐานของสังคม ต้องเคารพในสิทธิและเสรีภาพของคนอื่น ๆ ในสังคมด้วยความเสมอภาค ต้องยอมรับผลทางกฎหมายอย่างถูกต้องและความเท่าเทียมกัน การก้าวเดินจึงต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง มิฉะนั้นแล้วก็จะกลายเป็นพวก Individualism เช่นที่เห็นและเป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งกลายเป็นพวกเอาตัวเองเป็นใหญ่ (Self-centered) และจะนำไปสู่ความเสื่อมถอยและสูญสลายไปในที่สุด


เรื่อง: ดร.ปุณกฤษ ลลิตธนมงคล

ที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการสมัยใหม่ อาจารย์พิเศษหลักสูตรปริญญาโทและเอก นักเล่าเรื่องมากมายในหลากหลายมิติ เป็นผู้ที่ชื่นชมสนใจในประวัติศาสตร์สงครามสมัยใหม่ตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ

👍 ติดตามผลงาน อาจารย์ปุณกฤษ ลลิตธนมงคล เพิ่มเติมได้ที่ : https://thestatestimes.com/author/ดร.ปุณกฤษ%20ลลิตธนมงคล