‘เพื่อไทย’ ชื่นมื่น!! ต้อนรับ ‘สมศักดิ์-สุริยะ’ คืนถิ่น เชื่อ!! ช่วยเติมเต็มโอกาส ‘แลนด์สไลด์’ ให้พรรค

(23 มี.ค.66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) แกนนำพรรค พท.นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหน้าหน้าพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะทำงานด้านกฎหมายพรรค พท. นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส.พรรค พท.ให้การต้อนรับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรมว.ยุติธรรม และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรมว.อุตสาหกรรม รวมทั้ง นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ภรรยานายสมศักดิ์ เพื่อเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค พท.

จากนั้น นพ.ชลน่าน แถลงว่า วันนี้ถือเป็นวันดียิ่ง ดีกว่าวันที่ 20 มี.ค.ที่ผู้มีอำนาจคืนอำนาจให้ประชาชนขอต้อนรับผู้ใหญ่ทั้ง 3 ท่าน คือ นายสุริยะ, นายสมศักดิ์ และนางอนงค์วรรณ เรามีผู้ที่เคยทำงาน มีอุดมการณ์ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ซึ่งไม่ใช่คนใหม่ แต่เป็นคนที่สร้างสรรค์ผลงานกับพรรคมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย นายสุริยะเคยเป็นเลขาธิการพรรค นายสมศักดิ์ และนางอนงค์วรรณ ก็เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหลายกระทรวง

ทั้งนี้ ด้วยมิติทางการเมืองที่ผันผวน เป็นเหตุให้พวกท่านต้องไปทำงานการเมืองกับพรรคอื่นๆ ประชาชนรู้ซึ้งได้ว่าท่านต้องดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเช่นนั้นเพื่อรักษาสภาพ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีทั้งสามท่านบนเวทีวันนี้ และในอนาคตข้างหน้าหวังว่าจะไม่มีมิติทางการเมืองที่บีบคั้นเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ทั้งนี้ เป้าหมายของเราคือทำงานเพื่อประชาชน เป้าหมายเด็ดขาดคือแลนด์สไลด์ 310 เสียง ปลดล็อกสิ่งที่เขียนในรัฐรรมนูญ ด้วยความสามารถของพวกท่านจะมาผนึกกำลังกับเราได้

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ผมมีความสุขและความหวัง ต้องขอบคุณพรรค พท.ที่เปิดโอกาสให้ตนเข้ามาช่วยงานให้สมบูรณ์แบบ เป็นที่พึ่งที่หวังให้ประชาชน 100% วันนี้เราต้องแลนด์สไลด์ ตนจะเข้ามาเสริมเติมเต็มเพื่อให้สำเร็จ ที่ผ่านมาตนพอใจการทำงานของพรรค พท.

"วันนี้ฟ้าเปิด เมฆหมองจางหายสู่บรรยากาศประชาธิปไตย ผมประทับใจทีมเพื่อไทยที่เข้าใจ เป็นกลุ่มคนธรรมดาไม่ใช่คนที่มียศถาบรรดาศักดิ์ที่พูดกับชาวบ้านแล้วไม่เข้าใจ ซึ่งพรรค พท.สามารถทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชนและมีทีมงานที่คอยสนับสนุน ซึ่งในอดีตนโยบายพรรคไทยรักไทยสมัย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ บรรลุเป้าหมายเด่นชัด นำไปสู่การปฏิบัติได้ ไม่แลนด์สไลด์ก็เกือบแลนด์สไลด์โดยไม่ต้องมีพวกผมเลย ต้องขอขอบคุณพี่น้องสมาชิกพรรค พท.ที่ต้อนรับ โทรมาให้กำลังใจ ซึ่งผมพร้อมเดินหน้าทำงานให่พรรคอย่างเต็มที่" นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสุริยะ กล่าวว่า ต้องขอบขอบคุณผู้บริหารพรรค พท.ที่ได้ให้โอกาสพวกตนได้กลับเข้ามาทำงานร่วมกับพรรค พท.มีการต้อนรับที่อบอุ่น ที่ผ่านมามีผู้สื่อข่าวสอบถามตนมาตลอดว่าทำไมตัดสินใจมาเป็นสมาชิกพรรค พท.นั้น ทั้งนี้ 8 ปีที่ผ่านมาที่มีการทำรัฐประหาร ทำโครงสร้างเศรษฐกิจพลังทลาย จนนักลงทุนไม่กล้าเข้ามา 4 ปีหลังพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นรัฐบาลแต่เสียงไม่มากพอ ทำให้กระทรวงเศรษฐกิจไปอยู่พรรคอื่น ทำให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ และตนมีโอกาสไปพบกับประธานหอการค้า ช่วงหลังทุกคนบอกว่ารัฐบาลชุดนี้ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เลย ถ้าเกิดอยู่ต่อไปคงทุกข์ยากลำบากมาก บางคนที่สนิทกันก็มากระซิบว่าท่านย้ายพรรคเถอะ และตนลงพื้นที่เจอเพื่อนฝูง ไม่มีใครเชียร์ให้อยู่พรรคพลังประชารัฐเลย ดังนั้นจึงต้องย้ายพรรค และต้องได้ ส.ส.แลนด์สไลด์เพื่อผลักดันนโยบายตามสโลแกนคิดใหญ่ ทำเป็น

เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองอีกหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่เปลี่ยนขั้วแน่นอน จะตั้งใจทำงานเต็มที่เพื่อให้ได้ ส.ส.มากที่สุด ยืนยันว่าพรรค พท.มีพื้นที่ใหม่ๆ ที่ให้ผู้แทนเข้ามาได้ เพราะมีฐานคะแนนความนิยมที่ผู้บริหารพรรคได้ทำได้ การจะสร้าง ส.ส.คนใหม่ในพื้นที่ที่ไม่เคยมีผู้แทนนั้น เชื่อว่ามีสิทธิได้ผู้แทนสูง

เมื่อถามว่า นายสมศักดิ์ และนายสุริยะ จะเข้ามาช่วยงานส่วนไหนของพรรค พท. นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขอให้พรรควางตำแหน่งให้ตนลอยตัว สามารถเคลื่อนตัวไปได้ทุกที่ ตนมีสมัครพรรคพวกคอยรับฟังแนวนโยบาย และจะได้ไปลงพื้นที่ทำความเข้าใจนโยบายกับประชาชนให้มากที่สุด เท่าที่กำลังและเวลาจะทำได้

เมื่อถามว่า กลุ่มปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ มีการยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบเรื่องเหมืองทองอัครา จะมีการชี้แจงอย่างไร นายสุริยะ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนชี้แจงในการอภิปรายไปแล้วว่ารัฐบาลที่ผ่านมา พยายามดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ ซึ่งตอนนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งยุติการทำเหมืองชั่วคราว หลังจากนั้นก็ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าสิ่งที่ประชาชนได้รับผลกระทบนั้นมีการยืนยันออกมาว่าไม่ได้เป็นไปตามที่ว่าจึงมีการเจรจาและคุยกับ บ.คิงส์เกตฯ ซึ่งเรื่องทั้งหมดก็สามารถยุติได้ โดยทางรัฐบาลเองไม่ฟ้องร้องจากเดิมที่มีการฟ้องร้องเป็นหมื่นล้าน ซึ่งมีการตกลงกันเรียบร้อย และเป็นประโยชน์ที่ประเทศไทยไม่ต้องเสียค่าชดเชย เรื่องนี้จบแล้วยืนยันว่าตนไม่ได้ประโยชน์อะไรจากข้อตกลง แต่ทำไปในนามของประเทศ


ที่มา: https://www.naewna.com/politic/719326