‘ก้าวไกล’ ปลุก ‘นศ. มธ.รังสิต’ ตื่นรู้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ย้ำ รัฐสวัสดิการที่ดีสามารถพาไทยออกจากวิกฤตได้

(23 มี.ค. 66) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า รับเชิญเป็นผู้บรรยายพิเศษในรายวิชา TU101 ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในหัวข้อเกี่ยวกับอนาคตของเศรษฐกิจและสังคมไทย ความเหลื่อมล้ำ การเข้าสู่สังคมสูงวัย ปัญหากับดักรายได้ปานกลาง และความจำเป็นที่จะต้องมีการพัฒนาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีใหม่ขึันมาในประเทศไทย เพื่อรองรับปัญหาเหล่านี้

ในช่วงหนึ่งของการบรรยาย นายธนาธรชี้ให้เห็นว่าปัญหาหลักที่สังคมไทยกำลังเผชิญหน้าอยู่ คือ ปัญหาอัตราการเกิดของประชากรที่ต่ำลง และการเข้าสู่สังคมสูงวัย จะมีผลกระทบที่รุนแรงขึ้นตราบที่ประเทศไทยยังคงมีความเหลื่อมล้ำมหาศาลเช่นในปัจจุบันดำรงอยู่ และทั้งหมดจะยิ่งตอกย้ำปัญหากับดักรายได้ปานกลางของประเทศไทยให้รุนแรงขึ้น จากการมาถึงจุดอิ่มตัวไม่สามารถไปต่อได้แล้วของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์

จึงทำให้ประเทศไทย มีความต้องการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ขึ้นมา โดยนำปัญหาสังคมมาสร้างเป็นความต้องการ พัฒนาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเพิ่มผลิตภาพให้กับประเทศ สร้างงานที่มีคุณภาพเพื่อรองรับคนจบใหม่ ลดความเหลื่อมล้ำและสังคมสูงวัยไปพร้อม ๆ กัน

“แต่เศรษฐกิจจะเติบโตอย่างเป็นธรรมหรือไม่ สุดท้ายเป็นเรื่องที่แยกไม่ออกจากเรื่องของการเมือง และการจัดสรรภาษี ว่าจะกระจายดอกผลให้คนส่วนใหญ่หรือคนส่วนน้อยในสังคม อำนาจเมื่อกระจุกตัวอยู่ที่ใครก็ตาม ทรัพยากรก็มักจะกระจุกตัวอยู่ที่คนกลุ่มนั้น การสร้างประชาธิปไตยที่อำนาจสูงสุดอยู่ที่ประชาชนเท่านั้น ที่จะสามารถนำไปสู่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยได้” นายธนาธรกล่าว

ส่วนในช่วงบ่ายวันเดียวกันที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ก็ได้รับเชิญให้มาเป็นผู้บรรยายพิเศษ ในรายวิชา TU101 และได้บรรยายถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำด้วยเช่นกัน โดยเน้นไปที่ด้านการเมือง ชี้ให้เห็นถึงรูปแบบการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มทุนขนาดใหญ่กับรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากประชาชน ที่จะสังเกตได้ว่าหลังการรัฐประหารทุกครั้ง จะมีกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่เติบโตขึ้นมาจากการได้สัมปทานพิเศษจากอำนาจ รัฐฯ เสมอ เช่น ในกรณีของกลุ่มทุนพลังงานกลุ่มหนึ่ง ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดขึ้นมาจากนโยบายพลังงานในยุครัฐบาลรัฐประหารและรัฐบาลทหารจำแลงเมื่อเร็ว ๆ นี้

น.ส.พรรณิการ์ ยังกล่าวด้วยว่าการเลือกตั้งที่จะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนนี้ จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากเพื่อให้ได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มาแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ และนำประเทศไทยออกจากปัญหาที่กำลังรุมล้อมอยู่ตอนนี้ แต่ที่สำคัญคือการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียวไม่อาจแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้ เพราะไม่ใช่ทุกรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะมีเป้าหมายในการแก้ความเหลื่อมล้ำ และกลุ่มทุนใหญ่จำนวนมากต่างก็คอยให้การสนับสนุนทุนแก่พรรคการเมืองใหญ่ของทุกฝ่ายอยู่ เพื่อให้มั่นใจว่าจะยังคงอิงแอบอยู่กับอำนาจรัฐฯ ได้ต่อไปไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง

“เรายังต้องมีรัฐบาลที่ตระหนักถึงผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่เป็นหลัก และนั่นจึงยิ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่เคาต้องมีพรรคการเมืองที่ไม่รับการสนับสนุนจากกลุ่มทุนใหญ่ เพื่อที่จะไม่ต้องตอบแทนบุญคุณของกลุ่มใครทั้งนั้นนอกจากประชาชน ยึดประโยชน์ของคนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้งเท่านั้น” น.ส.พรรณิการ์กล่าว

จากนั้น ในช่วงบ่ายไปจนถึงเย็น ทั้งนายธนาธร และ น.ส.พรรณิการ์ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ได้ร่วมหาเสียงไปกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.ปทุมธานี ที่ตลาดไอยรา ช่วยหาเสียงให้กับ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 ก่อนร่วมเดินตลาดสะพานฟ้า-สะพานแดง ช่วยหาเสียงให้ นายสกล สุนทรวาณิชย์กิจ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 และ นายเชตวัน เตือประโคน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6

พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.ปทุมธานี จากเขตอื่น ๆ ที่ได้มาร่วมกันเดินหาเสียงในทั้งสองตลาด ทั้ง นายสรวีย์ ศุภปณิตา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1, นายเจษฎา ถาวรธรรมฤทธิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2, นายพิชัย ปิยะกาโส ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 และ นายประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 ที่ได้มาร่วมกันแนะนำตัว ปราศรัย และเดินพบปะพูดคุยกับประชาชนในทั้งสองตลาด โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประชาชน ที่ต่างเข้ามาร่วมพูดคุยทักทาย ขอถ่ายรูป และจับไม้จับมืออย่างเป็นกันเอง

โดยในช่วงหนึ่งของการปราศรัย น.ส.พรรณิการ์ ได้ระบุว่าขอให้ทุกคนอย่าเลือกด้วยความกลัวว่าจะแพ้ แต่ขอให้เลือกด้วยความหวังว่าจะชนะ เป็นหนึ่งเสียงที่สนับสนุนให้พรรคที่ทุกคนเชื่อมั่นได้เป็นรัฐบาล เพราะถ้าเลือกด้วยความกลัวตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว คงไม่มีพรรคอนาคตใหม่จนมาเป็นพรรคก้าวไกลอย่างทุกวันนี้ และการเลือกด้วยความหวังเท่านั้น ที่จะสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงได้

ทั้งนี้ ระหว่างการเดินหาเสียง นายตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต ได้เดินทางมาด้วยตัวเองเพื่อพบปะพูดคุยให้กำลังใจ และมอบช่อดอกไม้ขนาดใหญ่ให้กับนายธนาธรด้วย