ค้ามนุษย์หมดไป!! ‘บิ๊กป้อม’ สั่งยกระดับกวาดล้าง ‘ค้ามนุษย์’ ทุกรูปแบบ ขยายครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมตั้งเป้าดันไทยขึ้นเทียร์ 1

( 9 มี.ค. 66 ) ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์(ปคม.) และคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์(ปกค.) 

โดยที่ประชุมเห็นชอบ ร่างรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงาน ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย (Progress Report) และกรอบเวลาการจัดทำรายงานฯ เพื่อจัดส่งให้สหรัฐฯเพิ่มเติม เพื่อใช้ประเมินและจัดอันดับในทิปรีพอร์ต ในปีถัดไป และเห็นชอบการติดตาม ผลการขับเคลื่อนการดำเนินงาน NRM ในจังหวัดนำร่อง ซึ่งคณะทำงานฯ ได้กำหนดไว้ 10 จังหวัด ได้แก่กาญจนบุรี,สระแก้ว,ตราด,สงขลา,สตูล,เชียงราย,ระนอง,ขอนแก่น,หนองคาย และอุบลราชธานี โดยมีการติดตามการดำเนินงาน ในช่วงเดือนพ.ย.65 - มี.ค.66 โดยพล.อ.ประวิตร มอบให้กระทรวงมหาดไทย พิจารณางบประมาณของจังหวัดดำเนินการฯ และให้สำนักงบฯ จัดสรรงบประมาณเพื่อการขับเคลื่อนฯ ให้เป็นรูปธรรม และยั่งยืน โดยมีเป้าหมายให้ครอบคลุมทุกจังหวัด เพื่อให้ประเทศไทยปลอดจากการค้ามนุษย์โดยเร็วที่สุด และมีโอกาสยกระดับขึ้นเป็นเทียร์ 1 ได้ ในปีถัดไป

ทั้งนี้ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการจัดตั้งศูนย์คัดแยกผู้เสียหาย(ดอนเมือง) เพื่อเตรียมรองรับการดำเนินงานตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM)ของทุกหน่วยงานต่อไป และรับทราบรายงานการพัฒนาระบบฐานข้อมูลของประเทศไทย ด้านการดำเนินคดี และการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ (E-AHT) รวมทั้ง รับทราบการจัดทำแผนขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวปลอดภัยและเป็นมิตรกับเด็ก(Child Safe Friendly Tourism Project) และการจัดทำแผนปฏิบัติการ ด้านการป้องกันและแก้ไขการค้ามนุษย์ ปี 66-70 ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจาก พม.แล้ว ขณะนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนการกลั่นกรองของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก่อนเสนอ ครม. ต่อไป

จากนั้น พล.อ.ประวิตร เป็นประธานการประชุม ปกค.โดยที่ประชุมเห็นชอบ ให้กองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ประกาศกำหนดวงเงินค่าใช้จ่ายและหลักเกณฑ์ เพื่อให้ความช่วยเหลือ โดยยึดประโยชน์สูงสุดของผู้เสียหาย และเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นสำคัญ และเห็นชอบให้ตั้งคณะอนุกรรมการติดตามการบังคับคดี ให้เป็นไปตามคำพิพากษาเพื่อการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ ด้วย

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอบคุณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรพทรวงการต้างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ดำเนินงานมีความก้าวหน้าไปมาก และขอให้ร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงาน อย่างต่อเนื่อง ไม่ลดละต่อไป โดยเฉพาะเน้นย้ำการแก้ปัญหาแรงงานประมงผิดกฎหมาย อย่างจริงจังมากขึ้น เพื่อทำให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ทุ่มเท และจริงใจของรัฐบาลไทยต่อการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ รอบด้านและให้หมดไปจากประเทศไทย โดยให้ผู้เสียหายเป็นศูนย์กลางที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด และได้รับการชดเชย เยียวยา อย่างเป็นธรรม รวดเร็ว ตามหลักมนุษยธรรม