(26 ก.พ.66) สำนักข่าว CNBC สหรัฐอเมริกา เสนอข่าว Nokia launches smartphone you can fix yourself, jumping on ‘right to repair’ trend ระบุว่า 'โนเกีย (Nokia)' แบรนด์โทรศัพท์มือถือชื่อดังจากประเทศฟินแลนด์ เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ 'จี22 (G22)' มาพร้อมกับหน้าจอ 6.5 นิ้ว และกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล วัสดุทำจากพลาสติกที่สามารถรีไซเคิลได้ ตอบโจทย์ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

แต่ที่น่าจะฮือฮาที่สุด คือมือถือโนเกีย จี22 มาพร้อมกับ 'คู่มือสอนการซ่อมพร้อมเครื่องมือที่ต้องใช้ (Tools and Repair Guides)' ผู้ใช้สามารถถอดและเปลี่ยนฝาหลัง แบตเตอรี่ หน้าจอ และพอร์ตชาร์จของโทรศัพท์ได้ 

โดย อดัม เฟอร์กูสัน (Adam Ferguson) หัวหน้าฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของ HMD Global ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือกิจการของโนเกีย กล่าวว่า กระบวนการนี้จะมีต้นทุนโดยเฉลี่ยน้อยกว่าการเปลี่ยนโทรศัพท์เครื่องเก่าด้วยเครื่องใหม่ถึงร้อยละ 30

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า บรรดาบริษัทผลิตโทรศัพท์มือถือกำลังทำงานมากขึ้นเพื่อให้โทรศัพท์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ท่ามกลางแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีความยั่งยืนมากขึ้น เช่น ฝ่ายนิติบัญญัติในรัฐสภายุโรป กำลังเรียกร้องให้ออกกฎหมายที่จะบังคับให้ผู้ผลิตให้สิทธิ์แก่ผู้ใช้ในการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ด้วยตนเอง ซึ่งมาจากการรณรงค์ของนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิผู้บริโภค ต้องการให้ผู้ผลิตเอื้อให้ผู้ใช้งานสามารถซ่อมมือถือเองได้ง่ายขึ้น

ข้อตกลงใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของคณะกรรมาธิการยุโรปพยายามที่จะทำให้ประเทศสมาชิกเดินหน้าสู่แนวคิด 'เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)' ภายในปี 2593 ทำให้สินค้าทางกายภาพเกือบทั้งหมดสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ซ่อมแซม ใช้ซ้ำหรือรีไซเคิลเพื่อลดของเสียให้เหลือน้อยที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซ่อมโทรศัพท์มีความซับซ้อนมากขึ้นเนื่องจากแบตเตอรี่และส่วนประกอบอื่น ๆ ถูกปิดผนึกอย่างแน่นหนาด้วยกาว

'แอปเปิล (Apple)' บริษัทไอทีสัญชาติสหรัฐฯ เจ้าของแบรนด์มือถือ 'ไอโฟน (iPhone)' ซึ่งลังเลใจที่จะเปลี่ยนนโยบายการซ่อมมานานแล้ว กระทั่งในเดือนพฤศจิกายน 2564 จึงได้เปิดตัวโปรแกรมซ่อมแบบบริการตนเองที่ให้ลูกค้าซื้อชิ้นส่วนเพื่อซ่อมแซมอุปกรณ์ ต่อมาในเดือนธันวาคม 2565 ได้ขยายโครงการนี้ไปยัง 8 ประเทศในทวีปยุโรป ได้แก่ เบลเยียม ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี โปแลนด์ สเปน สวีเดน และอังกฤษ

เบน วูด (Ben Wood) หัวหน้านักวิเคราะห์ของ CCS Insight บริษัทวิจัยการตลาดที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงลอนดอนของอังกฤษ กล่าวว่า ในขณะที่ผู้บริโภคต้องการอุปกรณ์ที่ยั่งยืนและใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น ความสามารถในการซ่อมแซมสมาร์ตโฟนที่ง่ายและราคาย่อมเยาจะกลายเป็นตัวสร้างความแตกต่างที่สำคัญในตลาด ราวครึ่งหนึ่งของเจ้าของโทรศัพท์มือถือในยุโรปจะได้รับการซ่อมแซมอุปกรณ์ของตน หากเครื่องพังนอกระยะเวลารับประกัน

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่โนเกีย จี22 มีค่ามาตรฐานป้องกันน้ำและฝุ่นเพียง IP52 เท่านั้น จึงไม่สามารถกันน้ำได้ ซึ่ง เฟอร์กูสัน ยอมรับว่า ไม่สามารถทำให้มีคุณสมบัติดังกล่าวในราคาขายที่ตั้งไว้ได้ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในอังกฤษ วันที่ 8 มี.ค. 2566 ในราคา 149.99 ปอนด์ หรือราว 6,300 บาท ส่วนอะไหล่ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ แบตเตอรี่มีราคา 22.99 ปอนด์ หรือประมาณ 970 บาท หน้าจออยู่ที่ 44.99 ปอนด์ หรือราว 1,900 บาท พอร์ตชาร์จไฟ อยู่ที่ 18.99 ปอนด์ หรือประมาณ 800 บาท

รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า นอกจากโนเกียแล้ว 'แฟร์โฟน (Fairphone)' มือถือจากประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นผู้ผลิตอีกรายที่ ขายโทรศัพท์หลายประเภทที่ใช้ชิ้นส่วนที่ซ่อมแซมและเปลี่ยนได้ ทั้งนี้ ในอดีตโนเกียเคยเป็นผู้นำด้านการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ แต่ต่อมาต้องตามหลังทั้งแอปเปิล รวมถึง 'ซัมซุง (Samsung)' แบรนด์มือถือจากเกาหลีใต้ โดยระยะหลัง ๆ โนเกียดูจะเป็นที่รู้จักในฐานะบริษัทจำหน่ายอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมเสียมากกว่า

โนเกียนั้นขายแผนกผลิตโทรศัพท์มือถือให้กับ 'ไมโครซอฟท์ (Microsoft)' ยักษ์ไหญ่ด้านไอทีจากสหรัฐฯ ด้วยราคา 5.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือเกือบ 1.9 แสนล้านบาท ก่อนที่ในปี 2557 'เอชเอ็มดี (HMD)' บริษัทผลิตมือถือสัญชาติฟินแลนด์ซึ่งก่อตั้งโดยบรรดาผู้บริหารของโนเกีย จะซื้อแผนกดังกล่าวมาในราคา 350 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 12,250 ล้านบาท ทั้งนี้ โนเกีย จะได้รับส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์ในมือถือทุกเครื่องที่ HMD จำหน่าย

HMD ระบุว่า กำลังวางแผนที่จะจัดหาแหล่งผลิตโทรศัพท์เพิ่มเติมในยุโรป แต่ยังไม่เปิดเผยว่าจะเป็นที่ใดโดยอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย โดยบริษัทกำลังพัฒนาความสามารถและกระบวนการเพื่อนำการผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยี '5จี (5G)' ของโนเกียไปยังยุโรปในปี 2566 ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเน้นย้ำถึงความต่อเนื่องจากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในห่วงโซ่อุปทานของตน ในการย้ายออกจากจีนและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก

อ้างอิง: https://www.cnbc.com/2023/02/25/hmd-global-launches-nokia-g22-repairable-smartphone.html

ที่มา: https://www.naewna.com/business/713678