วันตะดิงจุด หรือ ออกพรรษาของเมียนมา มรดกทางวัฒนธรรมร่วม ที่ควรรีบขอขึ้นทะเบียน
มีข่าวดังมาจากองค์การ UNESCO ว่าประเทศไทยขอขึ้นทะเบียนวันสงกรานต์เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ในขณะที่กัมพูชายังมึนตึ๊บกับเรื่องมวยไทยกับกุน ขแมร์ กันอยู่
เอย่ามองว่าวัฒนธรรมเหล่านี้มันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมร่วมในดินแดนอุษาคเนย์แห่งนี้ อย่างสงกรานต์ในไทย-ในลาว เรียกว่า ‘ตรุษสงกรานต์’ ในกัมพูชาเรียกว่า ‘โจล ชนัม ขแมร์’ ส่วนในพม่าเรียกว่า ‘ติงจ่าน’ หรือ ตะจ่านนั้น ทุกความเชื่อเหมือนกันคือเป็นวันปีใหม่และมีเทศกาลเล่นน้ำ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ซึ่งหากเอาหลักฐานทางประวัติศาสตร์มาพูดย่อมจะพูดกันได้ยาก ว่าเป็นวัฒนธรรมของประเทศใดประเทศหนึ่ง
ทั้งนี้ยังมีอีก 1 เทศกาลที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันคือ วันตะดิงจุด หรือ ออกพรรษาของพม่า ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมร่วมเช่นกัน เพียงแต่ในแต่ละประเทศมีประเพณีต่างกันไปบ้าง เช่น ในไทยมีการตักบาตรเทโว เป็นต้น ส่วนในพม่าและลาวนั้น มีการประดับประดาเทียนตามพื้นที่วัดและอาคารบ้านเรือนเพื่อสักการะต่อพระพุทธเจ้าที่เสด็จลงมาจากสวรรค์นั่นเอง
แอดหวังว่าสักวันหนึ่งทางรัฐบาลเมียนมา จะขอส่งเรื่องให้เอาวันตะดิงจุดมาขอกับทาง UNESCO ว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมบ้าง เพราะส่วนหนึ่งของการจุดเทียนในวันตะดิงจุดแล้ว ในวันดังกล่าวผู้น้อยจะมาขอขมาให้ผู้ใหญ่อโหสิกรรมในความล่วงเกินที่ผ่านมาในอดีตส่วนผู้ใหญ่ก็รับไหว้ ผู้น้อยให้ของขวัญ ส่วนผู้ใหญ่แจกเงินขวัญถุง ซึ่งนี่ทำให้เทศกาลออกพรรษาในเมียนมาเป็นมากกว่าวันสำคัญทางศาสนา ซึ่งเป็นสิ่งที่เมียนมาควรขอเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอย่างยิ่งเพราะอย่างน้อยวัฒนธรรมแบบนี้ก็ได้สูญหายไปจากประเทศไทยแล้ว
เรื่อง: AYA IRRAWADEE