'ชญาภา' สับ 'ประยุทธ์' ยิ่งอยู่นานทุจริตยิ่งบาน จวกคะแนนดัชนีคอร์รัปชันไทยยังต่ำลงเรื่อยๆ

(1 ก.พ. 66) น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพท.กล่าวกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่ดัชนีการรับรู้การทุจริตประจำปี 2565 (Corruption Perception Index ปี 2022 : CPI) ของประเทศไทยว่า แม้อันดับการรับรู้การทุจริตของไทย จะขยับขึ้นมาจากอันดับที่ 110 ในปี 2564 จาก 180 ประเทศ ได้คะแนน 36 คะแนน ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากปีที่แล้วเพียง 1 คะแนนเท่านั้น แทบไม่มีนัยสำคัญ หากดูตัวเลขในปี 2557 ไทยได้คะแนนอยู่ที่ 38 คะแนน อยู่ลำดับที่ 85 ซึ่งมากกว่าและดีกว่า แสดงให้เห็นว่าหลังยึดอำนาจ 8 ปีผ่านไปไม่มีอะไรดีขึ้น คะแนนและลำดับลดลงตกต่ำลงเรื่อยๆ หากเป็นการสอบของนักเรียน ถือว่าปีนี้ยังคงสอบตกจากคะแนนเต็มร้อยอยู่ 

ทั้งนี้ คาดว่าการจัดลำดับนี้น่าจะยังไม่รวมกับปัญหาทุนจีนสีเทา ตู้ห่าว การคอร์รัปชันของตำรวจที่เป็นข่าวรายวัน หรือข้อกล่าวหาการส่งส่วยในกรมอุทยาน ซึ่งอาจจะไม่สะท้อนลำดับที่แท้จริงตามสถานการณ์ในปัจจุบันหรือไม่ การคอร์รัปชันยังมีมากกว่าที่เห็นใน CPI ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญและรุนแรงเกาะกินประเทศไทยอยู่

น.ส.ชญาภา กล่าวต่อว่า คะแนน CPI ของไทยในปี 2565 ยังได้ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม โดยปีนี้อยู่อันดับที่ 77 ของโลกได้ 42 คะแนน ส่วนสิงคโปร์ได้ 78 คะแนน ได้มากกว่าไทย 2 เท่า แล้วขีดความสามารถแข่งขันของไทยจะแข่งขันกับประเทศอื่นได้อย่างไร สำหรับคะแนนเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น 1 คะแนน แต่ยังพบว่าคะแนนในรายหัวข้อลดลงจากปีที่ผ่านมา ได้แก่ การรับรู้ว่าการทุจริตเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสถาบันสังคม เศรษฐกิจและการเมือง โดยเฉพาะการรับรู้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีพฤติกรรมในทางตำแหน่งหน้าที่ในทางมิชอบ แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งมีหน้าที่หลักในการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต ละเลยต่อปัญหาดังกล่าว การตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาลลดลงด้วย 

“เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาไป 8 ปีกับรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง ไม่ได้แก้ปัญหาการทุจริต มีปัญหาการทุจริตทุนสีเทาเกิดขึ้นรายวัน พล.อ.ประยุทธ์เคยประกาศให้การแก้ไขปัญหาการทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ แต่พล.อ.ประยุทธ์ยิ่งอยู่นานปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันยิ่งเบ่งบาน แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ยังกล้าขออยู่ต่ออีก 2 ปี พล.อ.ประยุทธ์ต้องหยุด พอได้แล้ว ประเทศไทยตกต่ำลงมามากพอแล้ว” น.ส.ชญาภา กล่าว