‘คนเพื่อไทย’ ยกเคสตีตกข้อกล่าวหา ‘จีทูจีภาค 2’ แค่ใบสั่งเพื่อหาความชอบธรรมในการทำรัฐประหาร
(21 ธ.ค. 65) นายชุมสาย ศรียาภัย รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.มีมติตีตกข้อกล่าวหาคดีระบายข้าวจีทูจีภาคสอง และกรณีศาลปกครองสั่งไม่ต้องจ่ายชดเชยคดีจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้านบาทก่อนหน้านี้ เป็นบทพิสูจน์ถึงความสุจริตและความจริงของนายทักษิณ ชินวัตร, น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่ได้คิดค้นนโยบายขึ้นมา โดยยึดถือเอาประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง หวังยกระดับรายได้ของพี่น้องเกษตรกรให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเท่านั้น เรื่องนี้เชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้งกันในทางการเมือง เป็นการสร้างเหตุหาความชอบธรรมในการทำรัฐประหาร เป็นคดีใบสั่ง ซึ่งผลที่สุดเวลาและความถูกต้องเป็นข้อพิสูจน์ว่าการป้ายสีทางการเมืองต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่สามารถเอาผิดกับอดีตนายกฯ ทั้งสองและ ส.ส.ของพรรคพท.ได้
นายชุมสาย กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ตัดสินให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.จ่ายค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยให้กับนายสุรพล เกียรติไชยากร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 เชียงใหม่ พรรคพท.จำนวน 62 ล้านบาทกรณีแจกใบส้มโดยมิชอบ ก็เป็นเครื่องยืนยันถึงความบริสุทธิ์ และไม่ได้ทำผิดตามกฎหมายการเลือกตั้งเช่นกัน ทั้งสองกรณีเป็นบทพิสูจน์ว่าทั้งอดีตนายกฯ และ ส.ส.ของพรรคพท.ทำงานเพื่อประชาชนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ได้ทำผิดกฎหมายตามที่ถูกกล่าวหา และที่ผ่านมาเราได้ต่อสู้และเรียกร้องความถูกต้องกลับคืนมาอย่างสมเกียรติสมศักดิ์ศรี
“สำหรับกฎหมายลูก เช่น พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 หรือ พ.ร.ป.กกต. และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 หรือ พ.ร.ป. ป.ป.ช.ที่คณะผู้ยกร่างในอดีต ได้ออกแบบให้มีอำนาจมากเกินไป และเคยมีการตีความขยายอำนาจตนเองด้วย และที่สร้างปัญหาให้กับพรรคการเมือง และ ส.ส.ที่ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน คงต้องถูกแก้ไขให้มีความเป็นประชาธิปไตยและมีความยุติธรรมอย่างแท้จริง” นายชุมสาย กล่าว