‘ญี่ปุ่น’ เตรียมถอยทัพออกจากจีน เบนเข็มลุยอาเซียน ส้มหล่น!! ผลโพลเผย 76% ญี่ปุ่นเลือกซบไทย

(11 ธ.ค. 65) เมื่อไม่นานมานี้ รายการ Summary Reporter ได้เผยแพร่วิดีโอบอกเล่าเรื่องราวการลงทุนของญี่ปุ่นในจีน พร้อมระบุถึงทีท่าที่ไม่สู้ดี เนื่องจากมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่ยังเข้มข้นของจีน และแนวโน้มที่จะย้ายฐานการลงทุนกลับมาที่อาเซียน และส้มอาจหล่นที่ประเทศไทย โดยระบุไว้อย่างน่าสนใจว่า…

‘ญี่ปุ่น’ เตรียมเปลี่ยนแผนถอยทัพออกจากจีน เบนเข็มกลับสู่อาเซียน โดยมีโอกาสมากถึง 76% ที่จะกลับมาลงทุนในประเทศไทย หลังนโยนบายจีนเอาแน่เอานอนไม่ได้

ดูเหมือนนโยบายการเปิดประเทศของจีนนั้นน่าจะยังอีกยาวไกล ทำให้การทำธุรกิจในจีนดูสุ่มเสี่ยงเกินไป เพราะเอาแน่เอานอนไม่ได้สักอย่าง ในขณะที่โลกหมุนไป ทั่วโลกเปิดประเทศหมดแล้วหลังจากโควิด-19 แต่จีนยังอยู่แบบเดิมๆ คนทำธุรกิจก็แย่หนัก นำเข้าก็ไม่ไหว ส่งออกก็ไม่ได้ 

ด้วยเหตุผลนี้ทำให้หลายประเทศที่เข้าไปลงทุนในจีนต้องปรับแผนกันใหม่ เตรียมถอยทัพออกจากจีนในหลายๆ กลุ่มธุรกิจ

แต่ที่น่าจับตามองคือ ‘ญี่ปุ่น’ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ สำนักข่าว Nikkei ของญี่ปุ่น ได้ไปสำรวจผู้ประกอบการธุรกิจหรือนักลงทุนที่เข้าไปลงทุนในจีน จากผลสำรวจระบุว่า จาก 100 แห่ง มี 78 แห่งบอกว่า ความเสี่ยงในการจัดหาชิ้นส่วนและอุปกรณ์วัตถุดิบในจีนมันเพิ่มมากขึ้นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

อีกทั้งบริษัทญี่ปุ่นประมาณร้อยละ 53% บอกว่า จะเตรียมลดการพึ่งพาในการจัดซื้อหรือการพึ่งพาอุปสงค์และอุปทานในจีนลง อย่างที่รู้กันว่าจีนเป็นโรงงานขนาดใหญ่ของโลก และโรงงานของญี่ปุ่นไปตั้งในจีนเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มบริษัทที่ผลิตเครื่องจักร จะมีการลดการพึ่งพาจีนลงถึง 60% 

ขณะที่บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ เคมีภัณฑ์ จะลดการพึ่งพาจีนลงถึง 57% ส่วนบริษัทด้านอิเล็กทรอนิกส์จะลดการพึ่งพาจีนลง 55% ดูจากตัวเลขพวกนี้ถือว่าลดลงครึ่งๆ เลยทีเดียว

ซึ่งการลดการพึ่งพาซัปพายเออร์ของจีนนั้น มีกระแสพูดถึงด้วยว่า กลุ่มธุรกิจหรือผู้ประกอบการ ประมาณ 86% ระบุว่า จะโยกฐานการผลิตกลับประเทศญี่ปุ่น เพราะค่าแรงในญี่ปุ่นไม่ได้พุ่งสูงมากเท่าจีน ที่ตอนนี้เศรษฐกิจโตพุ่งพรวด ส่งผลให้ค่าแรงพุ่งปรี๊ด ซึ่งตอนนี้ค่าแรงในจีนแซงหน้าประเทศอาเซียและประเทศอื่นๆ ไปมากเลยทีเดียว เท่านั้นยังไม่พอ เพราะเงินเยนที่อ่อนค่าก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวก รวมทั้งผู้ลงทุนมองว่าการผลิตในประเทศคุ้มค่ากับต้นทุนมากกว่า 

ส่วนอีกประการหนึ่งคือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ที่ตอนนี้มีทุนขนาดใหญ่เริ่มหลั่งไหลเข้ามาแล้ว ญี่ปุ่นก็เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่ลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย เช่น ในประเทศไทย ถือเป็นฐานผลิตสำคัญของญี่ปุ่น รวมถึงอินโดนีเซียด้วย

ซึ่งความน่าสนใจคือ กว่า 70% สนใจมาลงทุนในประเทศไทย เป็นอันดับที่ 1 

แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้จีนก็ค่อนข้างจะเริ่มปลดล็อกผ่อนคลายมาตรการแล้ว หลังจากที่มันไม่สามารถควบคุมโรคได้จริง และพยายามที่จะแก้หน้าหรือแอบทำเนียนๆ เงียบๆ เพราะว่าตอนนี้นักลงทุนไม่ไหวกับนโยบายที่เข้มงวดเกินไป ขณะที่เศรษฐกิจของจีนนั้นก็อยู่ในภาวะชะลอตัวเช่นกัน และคนในประเทศก็เริ่มทนไม่ไหว ออกมาประท้วง ออกมาแสดงความไม่พอใจ ตอนนี้คนจีนอึดอัด นักลงทุนต่างชาติก็อึดอัด ฉะนั้น โอกาสที่จะเกิดการย้ายฐานการผลิตหรือย้ายแหล่งลงทุนมาอยู่ที่ประเทศอื่นๆ ก็เริ่มสูงขึ้น 

เพราะฉะนั้น จะเรียกว่าส้มหล่นใส่ประเทศไทยก็ว่าได้ หรือจะบอกว่าประเทศมีศักยภาพก็ไม่ผิด เพราะประเทศไทย หรืออาเซียนยังมีความน่าสนใจในสายตานักลงทุนชาวญี่ปุ่นอยู่


ที่มา : https://youtu.be/XJAJr0DRFKU