เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 65 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ระบุต้องทำงานการเมืองให้ถูกต้อง สุจริต โปร่งใส เป็นธรรม ไม่ใช่มาทำเล่น ๆ ว่า…หลายครั้งที่การกระทำของพล.อ.ประยุทธ์ มักจะสวนทางกับคำพูด ก่อนขึ้นธรรมาสน์ต้องหัดล้างเท้า ก่อนจะพูดจาให้ดูเท่ ดูดี ต้องสำรวจการกระทำของตัวเองด้วย 

พล.อ.ประยุทธ์ใช้อาวุธยุทโธปกรณ์จากภาษีอากรของประชาชน มายึดอำนาจรัฐบาลจากการเลือกตั้งของประชาชน เขียนนิรโทษกรรมไม่ให้เอาผิดในข้อหากบฏกับคณะรัฐประหาร ถือเป็นการเข้าสู่การเมืองที่ถูกต้องหรือไม่ 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ ผลคะแนน CPI ดัชนีรับรู้การทุจริตตกต่ำลงเรื่อย ๆ ปี 2564 ประเทศไทยได้ 35 คะแนน อยู่อันดับ 110 โลก ตกจากปี 2548 ในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย ที่อยู่ในอันดับที่ 59 แบบนี้ถือว่าสุจริตโปร่งใสอยู่หรือไม่ 

การใช้อำนาจมาตรา 44 ย้ายข้าราชการร่วมร้อยคน และข่มขู่จะย้ายข้าราชการที่มีจุดยืนทางการเมืองตรงข้ามให้หมด การสั่งปิดเหมืองทองแล้วประกาศว่าจะรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว แต่กลับนำเงินภาษีอากรของประชาชนไปเป็นค่าใช้จ่ายในการสู้คดี เป็นธรรมหรือไม่ 

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ส.ว.มีที่มาจากการสรรหาของคสช. แต่กลับไปโหวตหัวหน้าคสช.ให้เป็นนายกฯ เขียนรัฐธรรมนูญที่ดีไซน์มาเพื่อพวกตัวเอง ถือว่าเป็นธรรมหรือไม่ ปฏิรูปการเมืองแต่เกิดสภางูเห่ากินกล้วย ลากกระเป๋าเข้าไปแจกกล้วยกันเอิกเกริกในสภา พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่กำลังเตรียมการหอบหิ้วลูกหาบย้ายไปอยู่พรรคการเมืองใหม่ เตรียมเป็นนายกฯ คนละครึ่งจน ส.ส.ไม่มีสมาธิในการประชุม เป็นเหตุให้สภาล่มซ้ำซาก ก็เกิดขึ้นในยุค 8 ปีพล.อ.ประยุทธ์ 

“พล.อ.ประยุทธ์จะพูดเอาเท่ ให้ดูหล่อ ดูดีก็ว่าไป แต่ประชาชนจำได้ว่าใครพูดอะไรแล้วทำสวนทางกับคำพูดตลอด และรอตัดสินอนาคตทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ในคูหาเลือกตั้ง” นายอนุสรณ์ กล่าว