‘นายกฯ’ พอใจ เศรษฐกิจไทยขยายดีตัวทุกภาค รับอานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้น คาดปีหน้า ศก.โต 3.5 - 4%

‘นายกฯ’ พอใจ เศรษฐกิจภูมิภาคขยับดี หวังปี 66 โตขึ้น 3.5-4% ชี้ เป็นผลจากการท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง มั่นใจปรับตัวดีขึ้นในทุกภูมิภาค

(30 พ.ย. 65) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พอใจรายงานตัวเลขภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนต.ค. 2565 โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง เศรษฐกิจภูมิภาคได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวต่อเนื่อง ในภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน ขณะเดียวกันความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็ปรับตัวดีขึ้นในทุกภูมิภาค 

ทั้งนี้ เศรษฐกิจภาคใต้ มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 22.8 ต่อปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 42.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 40.7 และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 92.6 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 88.1 ภาคเหนือ มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 23.3 ต่อปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 48.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 47.0 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 75.8 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 76.1

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 24.5 ต่อปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 50.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 48.7 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 87.4 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 88.4

ส่วนภาคตะวันออก มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 10.9 ต่อปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 49.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 47.5 และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 102.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 100.7 ด้านภาคตะวันตก มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 44.9 ต่อปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 45.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 43.5 เช่นเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 98.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 95.3  

ขณะที่ กทม.และปริมณฑล มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ชะลอตัว ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 44.8 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 43.3 และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 98.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 95.3 และภาคกลาง มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ชะลอตัว ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 45.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 43.5 และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 98.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 95.3

“รัฐบาลมั่นใจเศรษฐกิจไทย ฟื้นตัวแล้ว และเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ มีความเป็นไปได้ที่ปีหน้า เศรษฐกิจจะขยายตัว 3.5-4% และการส่งออกจะเติบโต 3-5 % ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ได้เร่งส่งเสริมการลงทุน เศรษฐกิจการค้าชายแดน การผลักดันการส่งออก โดยเฉพาะการเร่งขับเคลื่อนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน มีการเตรียมเม็ดเงินลงทุนไว้แล้ว เพื่อพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ลดต้นทุนการขนส่ง ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ภายในระยะเวลา 8-10 ปี ข้างหน้า โดยจะเป็นการลงทุนทั้งในระบบสาธารณูปโภคและพลังงาน” น.ส.รัชดา กล่าว