‘ม็อบต้านเอเปค’ ป่วน ปะทะ คฝ.แยกอโศก พบส่วนใหญ่ล้วนหน้าเดิม - บางคนมีคดีติดตัว
จากกรณีที่นักกิจกรรมการเมืองและประชาชนที่เรียกตัวเองว่า 'เครือข่ายราษฎรหยุด APEC 2022' นำโดย น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ดาวดิน และแนวร่วมเครือข่ายต่าง ๆ เตรียมได้ฉวยโอกาสช่วงที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค 2022 นัดชุมนุมขับไล่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจากห่างหายไปหลายเดือน ด้วยหวังส่งสารไปถึงผู้นำระดับโลกที่เข้าร่วมการประชุมเอเปค
ล่าสุด เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 17 พ.ย. 65 พบว่า มีการรวมตัวกันของกลุ่มราษฎร 63 พร้อมแนวร่วมอีก 13 เครือข่าย จัดกิจกรรม What happening in Thailand? และพยายามจะฝ่าแนวกั้นเข้าไปบริเวณด้านหน้าอาคารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดประชุมให้ได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศให้ผู้ที่จะเข้าร่วมชุมนุมต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หากจะจัดชุมนุมจะต้องแจ้งการชุมนุม ส่วนจะเคลื่อนย้ายไปสถานที่ใดจะต้องแจ้งล่วงหน้า และห้ามชุมนุมกีดขวางการจราจร
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า กลุ่มราษฎร 63 และแนวร่วม ประมาณ 60 คน ซึ่งรวมตัวกันที่บริเวณแยกอโศกมนตรีนั้น ล้วนเป็นบุคคลที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ ออกจากตำแหน่ง และเชื่อมโยงกับขบวนการล้มล้างสถาบัน ซึ่งมีบางคนในกลุ่มนี้ที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 อาทิ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข, น.ส.ณัฐนิช ดวงมุสิทธ์ หรือใบปอ และน.ส.เนติพร เสน่ห์ สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย
นอกจากนี้ ทางฝ่ายความมั่นคง ยังพบว่ามีบุคคลซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มราษฎร 63 ในพื้นที่อีกจำนวนมาก อาทิ นายณัฐพงศ์ มาลี, นางนภัสสร บุญรีย์, นายพนัส พลายบัว, นายกีรติ สโมรินทร์, นายสามารถ ปุยปัญจะ, นายเจษฎา ศรีปลั่ง, นายธัชพงศ์ แกดำ, นายธีรัตน์ พณิชอุดมพัชร์, นางธนพร วิจันทร์, นายกรกช แสงเย็นพันธ์, น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว, น.ส.อันนา อันนานนท์, นายพิชัย เลิศจินตวงษ์, นางสาคร คำแถลง, นายพิชัย เลิศจินตวงษ์, นางจิรัชยา สกุลทอง, นางเงินตา คำแสน, นายเอกชัย หงส์กังวาน, นางพรวลัย ทวีธนวาณิชย์, นายวสันต์ กล่ำถาวร, นายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล, นายสุรเมธ น้อยอุบล, นายกันต์ แสงทอง, นายเชน ชีวอบัญชา, นายแซม สามแมท, นายจิรภาส กอรัมย์, นายสมพร งามสง่า, น.ส.สุวรรณา ตาลเหล็ก
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง ขอความร่วมมือ ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน และผู้ใช้รถ ใช้ถนน เนื่องจากการจราจรติดขัดเป็นวงกว้าง ขอให้กลุ่มฯ ย้ายกลับขึ้นไปทำกิจกรรมบนบาทวิถีตามเดิม ทั้งนี้หลังประชาสัมพันธ์ กลุ่มฯ ยังคงชุมนุมอยู่บนพื้นผิวการจราจร ทำให้เสียช่องทางจำนวน 1 ช่อง
จากนั้น พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี ในฐานเจ้าพนักงานชุมนุมสาธารณะ ประกาศว่า ชุมนุม ไม่ได้มีการแจ้งการชุมนุมล่วงหน้าก่อน 24 ชั่วโมง จึงเป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมประกาศว่า “ขอให้ท่านยุติการชุมนุมในเวลานี้” .
กระทั่งในเวลา 13.40 นางธนพร แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศยุติกิจกรรม แต่หลังจากนั้นผู้ชุมนุมไม่ทราบกลุ่มนำสีสาดใส่เจ้าหน้าที่ และนำสีสเปรย์พ่นใส่โล่ของแนวตำรวจควบคุมฝูงชน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้กำลังดันกลุ่มผู้ชุมนุมและสื่อมวลชนขึ้นบนทางเท้า จึงได้เกิดการปะทะกันเล็กน้อย
ต่อมาเวลา 14.10 น. ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วน ยังปักหลัก ทำกิจกรรมโดยการชูป้ายเชิงสัญลักษณ์ ชูสามนิ้ว และด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจคฝ. อยู่บริเวณถนนแยกอโศกอยู่เป็นระยะ