‘ณัฐชา’ ชี้!! หากอยากหยุดอาชีพนักร้อง ต้องแก้กฎหมายปิดปากประชาชน
ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกรณีที่ ศรีสุวรรณ จรรยา ถูกทำร้ายและเป็นกระแสถูกอกถูกใจประชาชนจำนวนมากเมื่อวานนี้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นคำตอบว่า คนส่วนใหญ่ในสังคมไม่เห็นด้วยและรังเกียจกับการทำหน้าที่ของนักร้องที่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทำลายฝ่ายตรงข้ามสร้างนิติสงครามอยู่บ่อยครั้ง
แต่ประเด็นสำคัญอยากให้พี่น้องประชาชนเห็นถึงต้นตอปัญหาว่า เหตุใดอาชีพนักร้องถึงสามารถสร้างนิติสงครามได้ไม่สิ้นสุด ที่หนักไปกว่านั่นคือ องค์กรยุติธรรมก็หยิบคดีจากนักร้องเหล่านี้มาทำคดีอยู่บ่อยครั้ง นั่นก็เพราะผู้มีอำนาจจงใจออกกฎหมายมาเป็นเครื่องมือปิดปากประชาชน กลั่นแกล้งขัดแข้งขัดขาฝ่ายตรงข้าม กลับกันหากกฎหมายไม่ได้เอื้อ อาชีพนักร้องก็เป็นได้เพียงการสร้างความรำคาญ ไม่มีผลชี้ชะตากรรมผู้อื่นเช่นนี้
ณัฐชากล่าวต่อว่า หากเรามีความเห็นตรงกันว่าอาชีพนักร้องเป็นอาชีพที่ขัดขวางการแสดงออกของประชาชนและเป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนในหลายประเด็นในสังคม สิ่งที่ต้องทำไม่ใช่การลงมือใช้ความรุนแรงกับนักร้อง แต่ต้องร่วมกันผลักดันให้มีการแก้กฎหมายที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ได้แก่กฎหมายอาญามาตรา 112, มาตรา 116, พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ให้ได้ ซึ่งพรรคก้าวไกลได้เสนอแก้กฎหมายเหล่านี้ในการเปิดนโยบายการเมือง (วันที่15 ตุลาคม 2565) และขณะนี้ร่างแก้ไขชุดกฎหมายเหล่านี้ ได้ถูกบรรจุเข้าสู่วาระการพิจารณาของสภาแล้ว ยกเว้นร่างแก้ไขกฎหมาย 112 ที่สภาไม่ยอมบรรจุเข้าวาระ โดยอ้างว่าขัดรัฐธรรมนูญ แต่พรรคก้าวไกลยืนยันจะเดินหน้าผลักดันต่อไปหากได้เป็นรัฐบาล และย้ำว่าการแก้ 112 ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่ได้กระทบต่อพระราชสถานะองค์พระมหากษัตริย์ ในฐานะประมุขของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ณัฐชายืนยันว่า แม้ตนจะถูกนายศรีสุวรรณยื่นร้องในหลายครั้ง แต่พรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงตอบโต้ แม้อีกฝ่ายจะก่อความเดือดร้อน ทำลายชีวิตผู้อื่น ทางเดียวที่จะทำให้ทุกฝ่ายอยู่กันอย่างสันติได้ คือกฎหมายในประเทศต้องเป็นธรรมและเป็นกฎหมายที่คุ้มครองประชาชนไม่ใช่คุ้มครองผู้มีอำนาจ ไม่เปิดทางให้มีการใช้กฎหมายกลั่นแกล้งกัน