'ธนกร' สวนกลับ 'พิชัย' อย่าคิดว่าตัวเองเป็นกูรู ยกผลงานแก้โควิด-19 การันตีฝีมือนายกฯ

นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์ ด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อ สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนจำนวนมาก ที่ผ่านมาคิดว่าตนเองทำได้ดี ประเทศก้าวหน้า ทั้งที่ประเทศเพื่อนบ้านแซงหน้าไปหมดแล้ว ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์รอด แต่คนไทยน่าจะไม่รอดว่า ก่อนที่นายพิชัยจะว่าคนอื่นก็อยากให้ย้อนดูตัวเองเสียก่อน การอ้างว่าสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนจำนวนมากนั้น น่าจะเป็นคนส่วนน้อยอย่างนายพิชัยเสียมากกว่า แล้วถูกทักว่าตัวเองเป็นประชาชนส่วนใหญ่ และการบอกว่าที่ผ่านมาคิดว่าตนเองทำได้ดีก็น่าจะเป็นนิสัยของนายพิชัยเอง ที่คิดเองเออเองเสมอว่าสมัยเป็นรัฐมนตรีตัวเองเป็นกูรูเศรษฐกิจ คงทำได้ดี ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง 

ส่วนการบอกว่ารัฐบาลยิ่งกู้เงินมากยิ่งเจ๊งมากนั้นก็ไม่เป็นความจริง แต่อย่างน้อยที่เห็นได้ชัดเจนคือ รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้โกงจนประเทศเจ๊งมากเหมือนรัฐบาลที่นายพิชัยคุ้นเคยดี ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศทราบเรื่องนี้ดี หากยังปล่อยให้มาบริหารประเทศต่อไป คนไทยคงลำบากมากขึ้น เพราะคิดว่าตัวเองเก่งอยู่คนเดียว จึงสั่งสอนด้วยการให้เป็นฝ่ายค้านแต่ก็ยังไม่สำนึก

นายธนกร กล่าวอีกว่า การบริหารประเทศของท่านนายกฯ ที่ผ่านมา ได้รับเสียงชื่นชมจากนานาประเทศมากมาย โดยเฉพาะที่เห็นได้ชัดเจนและเป็นรูปธรรมคือการบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ที่มีการจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. เพื่อสื่อสารประชาสัมพันธ์สถานการณ์และข้อมูลที่เป็นประโยชน์สร้างการรับรู้ที่ถูกต้องให้กับประชาชน ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ที่มีการแพร่ระบาด โดยมีการประชุมอย่างต่อเนื่อง และสื่อสารเป็นประจำทุกวัน สร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทย ซึ่ง ศบค. เป็นแบบอย่างที่ดีที่สุดของความสำเร็จที่เกิดจากการทำงานอย่างบูรณาการกันของทุกภาคส่วน จนประเทศไทยได้รับการยอมรับ ชื่นชม และได้รับเกียรติให้เป็นตัวอย่าง ประเทศที่บริหารจัดการวิกฤตโควิดได้ดีที่สุดประเทศหนึ่งในโลก เป็นโมเดลการบริหารสถานการณ์ในภาวะวิกฤติ แม้วันนี้ได้ปิดศูนย์ ศบค. ไปแล้วเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 แต่ถือเป็นความสำเร็จของรัฐบาลในการบริหารงานในภาวะวิกฤติได้อย่างเป็นรูปธรรม 

“ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ยาวนานกว่า 2 ปี ท่านนายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลและผู้อำนวยการ ศบศ. ดำเนินมาตรการด้านสาธารณสุขควบคู่กับมาตรการทางด้านเศรษฐกิจมาโดยตลอด ทั้งการวางแผนรักษา และการป้องกันด้วยวัคซีน ตลอดจนการช่วยเหลือ เยียวยา และบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนทุกอาชีพ ทุกเพศ ทุกวัยที่ได้รับผลกระทบต่าง ๆ ให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวัน และประกอบอาชีพได้ท่ามกลางวิกฤติ รวมถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจนวันนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย และชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทย สร้างรายได้หลักให้กลับมาตามลำดับ ผมขอขอบคุณท่านนายกฯ คณะแพทย์ บุคคลากรด้านสาธารณสุข รวมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่อุทิศตน ทุ่มเท เสียสละ และอดทนจนทำให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ” นายธนกร กล่าว