พระราชพิธีสุดท้าย สิ้นสุดรัชสมัย 'สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ ๒' สู่ศักราชใหม่ 'พระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๓' ด้วยพระชนมายุ ๗๓ ปี

ในวันสุดท้ายของพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ ๒ ที่จะเกิดขึ้นในวันจันทร์ที่ ๑๙ กันยายนนี้ สำนักพระราชวังบักกิงแฮมได้ให้รายละเอียดกับสื่อมวลว่ามีหมายกำหนดการอะไรบ้าง ซึ่งน่าสนใจอยู่มาก

ผู้เขียนได้อ่านรายงานของบีบีซีภาคภาษาอังกฤษที่เขียนว่า The State Funeral ครั้งนี้ โดยอาจกล่าวได้ว่าเป็นเหตุการณ์พระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเหตุการณ์หนึ่งของประเทศหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ เป็นต้นมากันเลยทีเดียว

หลังจากการตั้งพระบรมศพเป็นเวลา ๔ วันให้ประชาชนคนทั่วไปได้เข้าถวายสักการะและอาลัยที่เวสต์มินสเตอร์ฮอลล์แล้ว จะมีการเคลื่อนพระบรมศพไปยังวิหารเวสต์มินสเตอร์ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ด้วยรถปืนที่เคยใช้เคลื่อนพระบรมศพพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ ๗, พระเจ้าจอร์จที่ ๕ และพระเจ้าจอร์จที่ ๖ มาแล้ว 

ในครั้งนี้จะมีทหารเรือจำนวน ๑๔๒ นาย เป็นคนลากรถปืน (ขอเล่าประวัติการที่ทหารเรือเข้ามามีบทบาทในการลากรถปืนพระบรมศพนี้เริ่มมาตั้งแต่รัชสมัยพระราชินีวิคตอเรีย โดยดั้งเดิมมักจะใช้ม้าเป็นผู้ลาก แต่บังเอิญเกิดเหตุการณ์ในระหว่างพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีวิคตอเรียขึ้น โดยม้าที่ใช้ลากเกิดตกใจยกขาหน้าขึ้นจนเกือบทำให้หีบพระบรมศพตก ดังนั้นเมื่อใช้ม้าไม่ได้จึงใช้ทหารเรือที่อยู่ในขบวนเข้ามาลากรถปืนพระบรมศพแทนนับตั้งแต่นั้นมาและเป็นความภาคภูมิใจของเหล่าทหารเรือเป็นอย่างยิ่ง)

เหมือนเช่นการเคลื่อนพระบรมศพในวันพุธที่ ๑๔ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๓, เจ้าหญิงแอนน์, เจ้าชายแอนดรูว์ และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด จะเสด็จพระราชดำเนินตามพระบรมศพพร้อมกับเจ้าชายวิลเลี่ยม ซึ่งได้รับการสถาปนาเป็นเจ้าชายมกุฎราชกุมาร, เจ้าชายแฮร์รี่ และปีเตอร์ ฟิลิปส์ พระโอรสของเจ้าหญิงแอนน์ ไปยังวิหาร

เนื่องจากเป็นงานรัฐพิธีของประมุขของประเทศ สำนักพระราชวังบักกิงแฮม จึงได้เชิญแขกต่างประเทศมาร่วมในงานด้วย ซึ่งส่วนหนึ่งจะเป็นพระประมุขและทรงเป็นพระญาติของสมเด็จพระราชินี อาทิ พระเจ้าแผ่นดินในยุโรป, หรือพระประมุขของประเทศในเอเซีย, ประธานาธิบดี, ผู้นำประเทศหรือผู้แทนทั้งหมด จำนวน ๒,๐๐๐ คน และในจำนวนนี้จะเป็นแขกบุคคลที่มีบทบาทสำคัญและทำคุณงามความดีของประเทศอังกฤษเข้าร่วมด้วยจำนวน ๒๐๐ คน

มีการเปิดเผยจากสำนักพระราชวังบักกิงแฮมว่า ในขั้นตอนของพระราชพิธีพระบรมศพนี้นั้น ทางสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ ๒ ตอนที่ยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ได้ทรงทราบในรายละเอียดด้วยและสิ่งหนึ่งที่พระองค์ได้ทรงให้เพิ่มคือ ทรงให้มีการเป่าปี่สก็อตปิดท้ายในพระราชพิธีในวิหารเวสต์มินสเตอร์

ซึ่งท่านผู้อ่านอาจได้เห็นขบวนนำพระบรมศพที่ยิ่งใหญ่สง่างามของเหล่าทหารปี่สก็อต, ทหารไอริช, ทหารอากาศและทหารอาสากูรข่า ส่วนสองข้างทางก็จะมีทหารเรือ, นาวิกโยธิน และทหารกองเกียรติยศยืนเรียงรายและมีวงดนตรีของทหารบรรเลงกันบ้างแล้ว

สำนักพระราชวังได้ประกาศเส้นทางที่ขบวนพระบรมศพจะเคลื่อนผ่านหลังพิธีในวิหารเวสต์มินสเตอร์ออกมาแล้วโดยจะเป็นเส้นทางภายในกลางกรุงลอนดอนและเส้นทางไปยังพระราชวังวินด์เซอร์ อันเป็นสถานที่สุดท้ายที่จะมีพระราชพิธีสำคัญที่สุดในโบสถ์ เซนต์ จอร์จ คือการส่งดวงพระวิญญาณและพิธีการฝังพระศพ

คาดว่าในวันนั้นจะมีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ให้ชมกันจนจะเสร็จสิ้นพระราชพิธีและเป็นการสิ้นสุดรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ ๒ โดยสิ้นเชิง

อังกฤษจะเริ่มศักราชใหม่ของพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใหม่อย่างไร ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง 

อย่างไรก็ตาม ด้วยพระชนมายุ ๗๓ ปีของกษัตริย์พระองค์ใหม่ที่เห็นการครองราชย์อันยาวนานของพระมารดา อาจเป็นแนวทางหรือแบบอย่างให้ทรงดำเนินตาม

ขอเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ล่าสุดมีรายงานข่าวว่าในวันสุดท้ายของพระราชพิธีพระบรมศพในวันจันทร์ที่ ๑๙ นี้ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๓ ได้ทรงมีพระบรมราชานุญาติให้ทั้งเจ้าชายแอนดรูว์และเจ้าชายแฮร์รี่ ทรงเครื่องแบบทหารได้ จากที่เดิมก่อนหน้านั้นเจ้าชายแอนดรูว์ทรงถูกพระมารดาริบยศทางทหาร เพราะความอื้อฉาวที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ขณะที่เจ้าชายแฮรี่ก็ทรงลาออกจากตำแหน่งพระราชวงศ์ ฉะนั้นการแต่งเครื่องแบบทหารนี้ จึงมีความสำคัญมากต่อพระองค์


อ้างอิง : Queen's funeral plans: What will happen on the day, BBC News
Queen Elizabeth II’s  personal touch in plan of funeral, BBC
Queen Elizabeth II: Navy officer rehears state funeral,BBC News


เรื่อง : อนุดี เซียสกุล อดีต Radio Journalist, วิทยุบีบีซีภาคภาษาไทย