'ธนกร' ยกย่อง 'บิ๊กตู่' เป็น 'นายกฯ' ดีที่สุดในรอบกว่า 10 ปี เน้นสร้างไทยเข็มแข็ง ขยายโครงสร้างพื้นฐาน ยกระดับความเป็นอยู่พี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม

ผมยกพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯ ที่ดีที่สุดของไทยในรอบกว่า 10 ปี จากการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ประเทศ ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ มอเตอร์เวย์ สถานีรถไฟกลางบางซื่อ รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ โดยไม่มีการแสวงหาประโยชน์เข้าตนเองหรือตระกูลแต่อย่างใด

นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2565

'ธนกร' ยกย่องพลเอก ประยุทธ์ฯ เป็น 'นายกฯ' ดีที่สุดในรอบกว่า 10 ปี เน้นสร้างไทยเข็มแข็ง ขยายโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ยกระดับความเป็นอยู่พี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม

นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการสำคัญที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ผลักดันมาอย่างต่อเนื่องเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับความเป็นอยู่ให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ ถนน ราง น้ำและอากาศ โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเติบโตที่ยั่งยืน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เกิดประโยชน์ได้ต่อไปในระยะยาวอีกด้วย รวมถึงการส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึง และใช้ประโยชน์ได้จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ  ลดความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้ของประชาชนในประเทศ

ทั้งนี้ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงแต่ละภาคของประเทศ และเชื่อมต่อภูมิภาคอาเซียน ทุกทิศทาง ประกอบไปด้วยการสร้างเส้นทางทางถนน โดยปี 2564 สร้างเพิ่มเป็น 11,583 กิโลเมตร มอเตอร์เวย์ สร้างเพิ่ม 3 เส้นทางสำคัญ บางปะอิน-โคราช บางใหญ่-กาญจนบุรี และพัทยา-มาบตาพุด ส่วนเส้นทางทางราง  ปัจจุบันมีแผนสร้างเพิ่ม ระยะเวลา 20 ปี จะมีระยะทาง 8,900 กิโลเมตร ครอบคลุม 62 จังหวัด และยังมีการสร้างสถานีกลางบางซื่อ เป็นชุมทางรถไฟขนาดใหญ่ ทันสมัยที่สุดในอาเซียน เชื่อมรถไฟทางไกล รถไฟความเร็วสูง – รถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ – รถไฟชานเมือง – สถานี บขส. และสนามบิน ส่วนรถไฟฟ้า (กทม.และปริมณฑล) สร้างเพิ่ม 10 สาย ระยะทางรวม 204.9 กิโลเมตร  รวมทั้ง โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ สำหรับการขนส่งทางน้ำ ได้เพิ่มศักยภาพรองรับปริมาณการขนส่งทางน้ำ ปี 2564 เพิ่มเป็น 355 ล้านตัน โดยพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด และท่าเรือแหลมฉบัง เชื่อมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ปีละ 4,000 ล้านบาท และทางอากาศ ปรับปรุงสนามบินทั่วประเทศ เพิ่มศักยภาพการรองรับผู้โดยสาร เป็น 139 ล้านคน

ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ได้วางรากฐาน 'เศรษฐกิจดิจิทัล' (Digital Economy) ให้สามารถเติบโตเร็วขึ้นอย่างก้าวกระโดด ส่งเสริมการทำธุรกรรมและการให้บริการรูปแบบต่าง ๆ ทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านแพลตฟอร์ม เพื่อเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนนโยบายและมาตรการต่าง ๆ จนประสบผลสำเร็จ ที่นำไปสู่การปฏิบัติได้จริง เกิดประโยชน์อย่างมากมายทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและต้นทุนที่ต่ำกว่า ประหยัดเวลาที่ใช้ในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลไปสู่ภาคปฏิบัติ ถึงมือพี่น้องประชาชนได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ได้แก่ (1) โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จ่ายเงินช่วยเหลือผ่านบัญชีธนาคาร ผู้มีรายได้น้อย 14 ล้านราย (2) โครงการ 'พร้อมเพย์' (Prompt pay) และ QR Payment ที่เป็นการชำระเงินผ่านอิเล็กทรอกนิกส์แบบ Any ID ที่เชื่อมโยงกับหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน โดยไม่มีค่าธรรมเนียม สามารถต่อยอดไปสู่ระบบภาษีและการบริจาค e-Donation สำหรับขอลดหย่อนภาษีได้ (3) Government Wallet (G-Wallet) ถุงเงิน application สำหรับ SMEs ขนาดเล็ก คือการใช้จ่ายเงินดิจิทัลของผู้เข้าร่วมโครงการผ่าน แอป 'เป๋าตัง' กว่า 50 ล้านคน และร้านค้า–SMEs ที่เข้าร่วมโครงการผ่าน แอป 'ถุงเงิน' ในโครงการคนละครึ่ง – เราเที่ยวด้วยกัน –  ชิมช้อปใช้ เป็นต้น

"โดยส่วนตัวแล้ว ผมขอยกย่องพลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุดของไทยในรอบกว่า 10 ปี จากที่ได้มีโอกาสติดตามการทำงานของนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกรัฐบาล ท่านนายกฯ ให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมประเทศทั้งแง่เศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐาน ระบบการเงิน ดิจิทัล และการใส่ใจสิ่งแวดล้อม เรียกความเชื่อมั่นของไทยในสายตาต่างประเทศ ทั้งเป็นเป้าหมายการลงทุนและการท่องเที่ยว ที่สำคัญนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ไม่มีมลทิน มัวหมอง ไม่แสวงหาประโยชน์ตนเองหรือตระกูล แต่ยึดโยงประเทศชาติและประชาชนเป็นศูนย์กลาง" นายธนกร กล่าว