‘ผู้พันเบิร์ด’ เผย ร.10 ทรงงานแบบประชาธิปไตย ดำเนินพระราชกรณียกิจอย่างเหมาะสมและแยบยล

‘ผู้พันเบิร์ด’ พบ นร.แผนที่ทหาร เผยแพร่ สถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ปรับบทบาทให้เข้ากับบริบทสังคม และทรงพระราชกรณียกิจเพื่อบ้านเมืองนำสมัยนำพาประเทศชาติรอดพ้นวิกฤต ระบุ ร.10 ทรงงานแบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง 
 
พ.อ.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่พบนักเรียนแผนที่ทหารร่วมพูดคุยถึงความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ว่าจะเป็นการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชหรือประชาธิปไตย ในหลวง ทุกพระองค์มีพระราชกรณียกิจที่เหมาะสมและแยบยล นำมาซึ่งความผูกพันระหว่างสถาบันกับประชาชนมาโดยตลอด 

โดยการทรงงานของในหลวงแต่ละพระองค์นั้นมีวิธีที่แตกต่างกันโดยเฉพาะรัชกาลปัจจุบันนั้น ถือได้ว่าเป็นการทำงานแบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริงพระองค์ทรงงานผ่านฝ่ายเสธ (องคมนตรี) รับการรายงานเรื่องราวความทุกข์ร้อนของประชาชนผ่านองคมนตรี มีการส่งงานอย่างเป็นระบบและสืบสานต่อยอดจากในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างชัดเจน อย่างในกรณีการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในรัชสมัยของในหลวงรัชกาล ร.9 มีการสอนตั้งแต่ป.1-ม.6 แต่เมื่อลงไปสืบสภาพแล้ว ม.4-ม.6 มีครูเพียงพอ พระองค์จึงให้เอาสามปีท้ายนี้ไปเพิ่มในสามปีแรกในระดับอนุบาล

ดังนั้นการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมในรัชกาลปัจจุบันจึงเริ่มสอนตั้งแต่ อ.1-ม.3  เสริมเติมเต็มส่วนที่ขาดในเรื่องการศึกษา ถ้าพูดถึงด้านการศึกษาแล้วพระองค์ยังได้มีการกระจายความเจริญจากส่วนกลางออกไปสู่ส่วนภูมิภาคด้วยในโรงเรียนระดับมัธยมหรือแม้กระทั่งมหาวิทยาลัยราชภัฎ

ซึ่งปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นมหาวิทยาลัยของท้องถิ่นอีกทั้งยังมีด้านทุนการศึกษาที่ต่อยอดจากในหลวงรัชกาลที่9อีกด้วย การกระจายความเจริญจากส่วนกลางออกสู่ส่วนภูมิภาคนี้ยังช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในเมืองอีกด้วยอาทิเช่นรถติดฝุ่นควันขยะน้ำเน่าเสียเพียงเรื่องการกระจายความเจริญออกสู่ส่วนภูมิภาคนี้ก็สามารถแก้ไขปัญหาทั้งเรื่องของ เมืองหลวง สิ่งแวดล้อม รถติดและปัญหาครอบครัวได้อีก