‘ผ้าขาวม้า’ ผูกรอบเอว ‘ผู้มาเยือน’ วัฒนธรรมต้อนรับแขกแบบคนอีสาน

หนึ่งในภาพคุ้นชิน เมื่อมีแขกผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองมาเยือนพื้นที่อีสาน เช่นการลงพื้นที่เยี่ยมเยือนประชาชนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ล่าสุด เมื่อวันที่ (15 มิ.ย. 65) ที่จังหวัดสกลนคร ได้เห็นชาวบ้านจำนวนมากหลั่งไหลมาผูก ‘ผ้าขาวม้า’ ที่เอวให้นายกฯ อย่างอบอุ่น 

การผูกผ้าขาวม้ารอบเอวนั้น ยิ่งผูกมาก ยิ่งสะท้อนให้คนเห็นถึงความสำคัญของแขกผู้มาเยือน และเป็นการแสดงออกถึงการต้อนรับที่แสนอบอุ่นของประชาชนที่มารอต้อนรับอีกด้วย

สำหรับ ‘ผ้าขาวม้า’ นับเป็นผ้าสารพัดประโยชน์และมีความผูกพันต่อวิถีชีวิตของชาวถิ่นอีสานในทุก ๆ แง่มุมของชีวิตอย่างแท้จริง ชนิดที่เรียกว่าตั้งแต่ตื่นจนถึงเข้านอน ผ้าขาวม้าจะอยู่ข้างกายของเจ้าของเสมอ ทั้งใช้นุ่งห่ม เช็ดทำความสะอาด ไปจนถึงปูนอน

ในพื้นถิ่นภาคอีสานเรียกผ้าขาวม้าว่า ‘ผ้าอีโป้ หรือ แพรอีโป้’  ซึ่งหากลองค้นคำในพจนานุกรมจะพบคำว่า “ยีโป้” หมายถึงผ้าหนา ๆ ใช้คาดไหล่ คาดพุง คนอีสานออกเสียงเป็น “อีโป้” ซึ่งผ้าขาวม้าในภาคอีสานมี 2 ลักษณะ คือ ผ้าแพรขาวม้า มีลวดลายสีเหลี่ยมจัตุรัสคล้ายตารางหมากรุก และผ้าแพรไส้ปลาไหล มีลวดลายเป็นริ้วๆ คล้ายกับปลาไหลที่ถูกผ่าท้องควักไส้ออกมา จึงเห็นเนื้อปลาไหลเป็นริ้ว ๆ

และนอกจากการใช้ผ้าขาวม้าในชีวิตประจำวันแล้ว ผ้าขาวม้ายังใช้เป็นสัญลักษ์ในพิธีกรรมต่าง ๆ เป็นต้นว่าใช้ผูกเอวต้อนรับแขก รวมไปถึง พิธีบายศรีผ้าขาวม้า ที่แสดงถึงการต้อนรับและมอบพรมงคลให้แก่ผู้มาเยือนโดยหมอสู่ขวัญ และการผูกเสี่ยว ซึ่งถือเป็นพิธีกรรมที่บุคคลสัญญาต่อกันว่าจะเป็นมิตรแท้ต่อกันตลอดไป ซึ่งคำว่า ‘เสี่ยว’ เป็นคำโบราณในภาษาอีสาน มีความหมายว่า มิตรแท้ เพื่อนแท้ หรือเพื่อนตาย 

ส่วนพิธีการผูกเสี่ยว ที่มีการจัดเป็นพิธีใหญ่นั้น จะมีการบายศรีสู่ขวัญ ผูกข้อมือ และใช้ผ้าขาวม้า ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของการต้อนรับและความอบอุ่นมาเป็นสื่อกลาง แทนตัว แทนความรัก และมิตรภาพ เพื่อมอบให้แก่กัน ซึ่งคู่ผูกเสี่ยวจะเข้าพิธีบายศรีสู่ขวัญ รับพร และรับการผูกข้อมือจากหมอสู่ขวัญ จากนั้นคู่ผู้เสี่ยวจะแลกเปลี่ยนผ้าขาวม้าระหว่างกันเป็นที่ระลึก เปรียบเสมือนการส่งมอบสัญญาต่อกันว่าจะเป็นเพื่อนรักกันตลอดไป