'ไบเดน' จวก บ.พลังงาน โกยเงินบนความทุกข์ เจอสวนกลับ!! น้ำมันแพง เพราะนโยบายรัฐ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน โวยวายใส่เอ็กซอน ยักษ์ใหญ่พลังงานสัญชาติอเมริกันเมื่อวันศุกร์ (10 มิ.ย.) กล่าวหาบริษัทแห่งนี้ "กำลังโกยเงินมากกว่าพระเจ้า" ในขณะที่ประชาชนชาวสหรัฐฯ กำลังเผชิญความทุกข์ทรมาน อย่างไรก็ตาม ทางเอ็กซอน ออกมาตอบโต้ว่าพวกเขาได้ยกระดับกำลังผลิตแล้ว ในขณะที่พวกฝ่ายอนุรักษ์นิยมกล่าวโทษราคาน้ำมันที่พุ่งสูง ว่า มีต้นตอจากนโยบายต่างๆ ของไบเดนเอง

ระหว่างแถลงข่าวที่ท่าเรือในลอสแองเจลิส ไบเดนหยิบยกแพะรับบาปต่างๆ กล่าวโทษว่าเป็นต้นตอของราคาน้ำมันพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสหรัฐฯ และเงินเฟ้อแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ในนั้นรวมถึงภาคอุตสาหกรรมขนส่ง และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เช่นเดียวกับปัญหาติดขัดในห่วงโซอุปทาน

ในเรื่องราคาน้ำมันที่พุ่งสูง ไบเดนล็อกเป้าไปที่เอ็กซอน บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ สำหรับการซื้อหุุ้นคืน (stock buyback) แทนที่จะนำสภาพคล่องที่เหลือจากการดำเนินงานเหล่านั้นไปลงทุนขยายกิจกรรมการขุดเจาะ

"เอ็กซอนทำเงินมากกว่าพระเจ้าเสียอีกในปีนี้" เขาบอกกับผู้สื่อข่าว "สิ่งแรกที่ผมอยากพูดก็คือ พวกบริษัทน้ำมันไม่ได้ขุดเจาะเพราะพวกเขาจะทำเงินมากขึ้น หากไม่ผลิตน้ำมันเพิ่มเติม"

ไบเดน กล่าวต่อว่า "อย่างที่ 2 คือ เหตุผลที่พวกเขาไม่ขุดเจาะก็คือ พวกเขากำลังซื้อหุ้นของตัวเองคืน ซึ่งบอกตรงๆ มันควรเสียภาษี" เขาระบุ "เอ็กซอนควรเริ่มลงทุนและเริ่มจ่ายภาษีของคุณ ขอบคุณ"

อย่างไรก็ตาม โฆษกของเอ็กซอน ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฟอร์บส์ ว่า ที่จริงแล้วทางบริษัทได้ยกระดับการขุดเจาะในแหล่งหินน้ำมัน Permian Basin ใต้รัฐเทกซัส 70% ระหว่างปี 2019 ถึง 2021 และเพิ่มศักยภาพการกลั่นในภูมิภาคแถบนี้มากกว่า 50% ในปี 2022 เมื่อเทียบกับปี 2021"

นอกจากนี้ ทางโฆษกของเอ็กซอน ให้ข้อมูลว่าทางบริษัทขาดทุนมากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 และเสียภาษีในปี 2021 ถึง 40,600 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 เพิ่มขึ้นจากปี 2020 ราว 17,800 ล้านดอลลาร์

ปัญหาเงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน และความกังวลทางเศรษฐกิจ คือ 3 ลำดับแรกในประเด็นที่ประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งให้ความสำคัญมากที่สุด และในผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยเอบีซีนิวส์เมื่อเร็วๆ นี้ พบว่ามีชาวอเมริกันชนมากถึง 71% ที่ไม่พอใจ ไบเดน ในความพยายามควบคุมเงินเฟ้อ และอีก 72% ไม่พอใจประธานาธิบดีรายนี้ในความพยายามฉุดราคาเชื้อเพลิงให้ลดต่ำลง

นอกเหนือจากกล่าวโทษบริษัทต่างๆ อย่างเช่น เอ็กซอน แล้ว ไบเดนยังใช้คำพูด "การขึ้นราคาของปูติน" ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในความพยายามกล่าวโทษผู้นำรัสเซียและปฏิบัติการทางทหารของมอสโกในยูเครน ต่อค่าครองชีพที่พุ่งทะยานในสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมปีก่อน ดีดตัวจากค่าเฉลี่ย 1.4% ในเดือนธันวาคม 2020 สู่ระดับ 7% ในเดือนธันวาคม 2021 หรือ 2 เดือนก่อนทหารรัสเซียยกพลบุกยูเครน ขณะเดียวกันราคาเบนซินพุ่งขึ้นจากค่าเฉลี่ย 2.28 ดอลลาร์ต่อแกลลอนในเดือนธันวาคม 2020 เป็น 3.40% ในเดือนธันวาคม 2021 และล่าสุดเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว ราคาโดยเฉลี่ยของน้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ ขยับเข้าใกล้ 5 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

พวกนักวิจารณ์หัวอนุรักษนิยมกล่าวโทษนโยบายการใช้จ่ายมากมายของประธานาธิบดี ผลักเงินเฟ้อพุ่งสูง ในขณะที่นโยบายด้านพลังงานสะอาดของเขา ในนั้นรวมถึงคำสั่งระงับเช่าพื้นที่ขุดเจาะน้ำมันและเพิกถอนใบอนุญาตโครงการท่อส่งน้ำมันคีย์สโตนระหว่างแคนาดากับสหรัฐฯ ในช่วงสัปดาห์แรกที่เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมพลังงานของอเมริกา

ยิ่งไปกว่านั้นการตัดสินใจของไบเดน เกี่ยวกับการห้ามนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย ตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน ยิ่งจำกัดอุปทานพลังงานของสหรัฐฯ หนักหน่วงขึ้นไปอีก


(ที่มา : อาร์ทีนิวส์/ฟอร์บส์)
https://mgronline.com/around/detail/9650000055732