'อดีตทูตไทยฯ' ย้อนอดีต ประเทศไทยอยู่รอดปลอดภัยมาตลอด ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์

นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า...

หลังจากที่เขียนเล่าประสบการณ์ที่ได้เคยปฏิบัติหน้าที่เป็นล่ามถวายงานในหลวง ร.10 ตอนที่เสด็จฯ เยือนลาตินอเมริกาใต้ ไปแล้ว ปรากฏว่ามีเสียงตอบรับจาก FC จำนวนมาก บอกว่าอยากฟังอีก ผมก็พยายามเรียบเรียงจากความทรงจำเท่าที่พอจะจำได้ ให้เพื่อนๆ ฟังอีกนะครับ

ช่วงที่เสด็จฯ เยือนเปรู มีเหตุการณ์ประทับใจ และเหตุการณ์น่าตื่นเต้น เท่าที่จำได้คือ...

มีหมายกำหนดการนึงพระองค์ต้องเสด็จฯ ไปที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติของเปรู ที่กรุงลิมา ซึ่งตอนนั้นมีจัดนิทรรศการเกี่ยวกับอารยธรรมอินคาอยู่ ซึ่งพระองค์ทรงสนพระทัยในเรื่องประวัติศาสตร์และอารยธรรมอินคามาก 

จนเสด็จฯ มาถึงหน้าบอร์ดนิทรรศการนึงเป็นรูปภาพแกะสลักที่หน้าผาแห่งหนึ่งเป็นรูปเหมือนพระธิเบตนั่งสมาธิมีหมวกทรงสูงครอบศีรษะ เรียงรายไปตามแนวของหน้าผาหลายรูป 

ตอนนี้พระองค์ท่านทรงหันมาทางผมและมีรับสั่งว่า ดูเหมือนพระทางพุทธศาสนากำลังนั่งสมาธิ ผมก็เลยแปลบอกกับ ภัณฑารักษ์ ที่ทำหน้าที่บรรยายตามที่ทรงมีรับสั่ง ปรากฏว่า ภัณฑารักษ์ พยักหน้าทันทีบอกว่า ใช่ เหมือนพระพุทธรูป (ภาษาสเปนเรียก El Buda) และชมว่าพระองค์ทรงช่างสังเกตมาก นักโบราณคดีก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมรูปแกะสลักเหล่านี้ถึงเหมือนพระพุทธรูป ที่มาปรากฏถึงลาตินอเมริกาใต้ได้ 

กำหนดการต่อมาก็เสด็จฯ ไปเยือน รร.นายร้อยของเปรู พระองค์ทรงฉลองพระองค์ในเครื่องแบบพลเอกทหารบก ตอนนั้นผมได้ยิน จนท.ทหารหญิงที่เฝ้ารอรับเสด็จฯ แอบชมพระองค์ท่านกับผมว่าทรง muy guapo ซึ่งภาษาสเปนแปลว่า ทรงหล่อมากนั่นเอง 

จากนั้นทางรัฐบาลเปรู ก็ได้จัดเครื่องบินพระที่นั่งแบบ Fokker F27 ซึ่งเป็นไอพ่น 2 เครื่องยนตร์ เพื่อให้พระองค์ได้บินขึ้นไปชมความมหัศจรรย์ของ Nazcar Line ซึ่งเป็นลวดลายต่างๆ บนพื้นดินเช่น ลิงม้วนหาง นกอินทรี แมงมุม เป็นต้น แต่ละลวดลายนั้นมันกว้างใหญ่มาก ซึ่งหากยืนบนพื้นดินก็จะมองไม่ออก จะต้องมองมาจากที่สูงเท่านั้น ถึงจะเห็นลวดลายทั้งหมด ซึ่ง Nazcar Line นั้นก็ยังเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้ว่าใครเป็นคนสร้าง จนเกิดเป็นทฤษฎี UFO นั่นเอง

ต่อมาพระองค์ท่านก็ได้เสด็จฯไปเยือนอาณาจักรอินคาที่เมือง Cuzco และ Machu Pichu ซึ่งก็มีเหตุการณ์ประทับใจที่ผมยังจำภาพได้ถึงทุกวันนี้คือ ตอนที่เสด็จฯ ไปยืนที่หน้าป้อมโบราณของอินคา ตรงนั้นเป็นลานสนามหญ้ากว้าง ทางฝ่ายเปรูก็ได้นำนักเรียนอนุบาลตัวเล็กๆ มารอรับเสด็จฯ 

พอเสด็จฯ ถึงที่นั้น ทางเปรูก็ปล่อยให้เด็กๆ ชาวเปรู (ลูกหลานอินคา) ทั้งหญิงและชายวิ่งเข้ามาหาพระองค์ท่าน โดยเด็กๆ วิ่งเข้ามาพร้อมร้องว่า El Principe (แปลว่า เจ้าชาย) เข้าไปรายล้อมพระองค์ท่าน พระองค์ท่านก็ทรงเป็นกันเองแย้มพระสรวลลูบศีรษะเด็กๆ เหล่านั้นด้วยพระเมตตายิ่ง เป็นภาพที่ยังติดตาผมจนถึงทุกวันนี้

จากเปรู ก็ต้องเสด็จฯ ต่อไปที่ เอกวาดอร์ เนื่องจากคณะฝ่ายไทยบางส่วนต้องเดินทางล่วงหน้าไปรอรับเสด็จฯ ที่เอกวาดอร์ก่อน ซึ่งทางการเปรูก็ได้จัดเครื่องบิน Fokker F 27 ลำเดิมที่ใช้บินชม Nazcar Line ให้คณะล่วงหน้าไปรอที่เอกวาดอร์

ตอนนี้มีเรื่องตื่นเต้นคือ เครื่อง Fokker F 27 ลำนั้น เกิดเครื่องไอพ่นดับไป 1 เครื่องก่อนที่จะร่อนลงสนามบินกรุง Quito ทำให้นักบินต้องขอเคลียร์รันเวย์ทำ emergency landing เดชะบุญที่เครื่องร่อนลงอย่างปลอดภัย พอตรวจก็พบว่าไอพ่นเครื่องนึงนั้นมีละอองทรายซึ่งสันนิษฐานว่าอาจฟุ้งเข้าเครื่องตอนที่บินเหนือ Nazcar Line นั่นเอง

การเสด็จฯ เยือนเอกวาดอร์ก็เป็นไปโดยราบรื่น เสด็จฯ ไปเยี่ยมชมจุดที่เรียกว่าเป็น “สะดือโลก” ซึ่งเอกวาดอร์เคลมว่าเป็นจุดศูนย์กลางของโลก 

จากเอกวาดอร์ ต้องเสด็จฯ จากกรุง Quito ไปเยือนหมู่เกาะกาลาปาโกส ซึ่งเป็นหมู่เกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิก มีความน่าสนใจทั้งด้านธรณีวิทยา สัตววิทยา และนิเวศวิทยา มีชื่อภาษาสเปนอย่างเป็นทางการว่า กลุ่มเกาะ Colon (เป็นชื่อของ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ในภาษาสเปน) ตั้งอยู่ในแนวเส้นศูนย์สูตร 

ทางการเอกวาดอร์ได้จัดเครื่องบินแบบ Boeing 727 ถวายเป็นเครื่องพระที่นั่ง และเนื่องจากกรุง Quito อยู่บนที่ราบสูง เครื่องบินไม่สามารถเติมน้ำมันเต็มถังได้ เนื่องจากความกดอากาศสูง ดังนั้นเครื่องบินจึงจำเป็นต้องลงจอดเพื่อเติมน้ำมันอีกครั้งนึงที่เมือง Guayaquil ที่อยู่ริมฝั่งแปซิฟิค ก่อนที่เครื่องจะออกบินต่อไปที่หมู่เกาะกาลาปาโกสที่อยู่ห่างจากตัวทวีปออกไปทางตะวันตกประมาณ 1,000 กม.

บนเครื่องพระที่นั่งนั้น ผมร่วมตามเสด็จฯไปด้วย  พระองค์ท่านประทับอยู่ตอนหน้าเครื่องโดยมีผ้าม่านกั้นไว้ ส่วนพวกที่ตามเสด็จฯ ก็นั่งในส่วนหลังของเครื่อง

ผมเองนั่งคุยกับ จนท.ทางด้านพิธีการทูตชาวเอกวาดอร์ที่ร่วมตามเสด็จฯไปถวายงานด้วย

ระหว่างที่เครื่องกำลังมุ่งหน้าไปที่หมู่เกาะกาลาปาโกส พระองค์ก็ได้เสด็จฯ มาในส่วนที่นั่งตอนหลังเพื่อทรงถามข้อมูลอะไรบางอย่างกับท่านทูตที่ตามเสด็จฯ

และโดยที่คนไทยเราถูกสอนให้แสดงอาการเคารพนบนอบต่อเจ้านาย จนท.คนไทยทั้งหมดก็จะถัดตัวจากเก้าอี้ที่นั่งลงไปย่อตัวระหว่างเก้าอี้โดยอัตโนมัติ  ผมเองซึ่งตอนนั้นกำลังคุยอยู่กับฝ่ายเอกวาดอร์ก็ถัดตัวลงไปจากเก้าอี้ด้วย เมื่อเห็นพระองค์ท่านเสด็จฯ มาใกล้ๆ ผม

ทางฝ่ายเอกวาดอร์ก็แปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมผมถึงลงไปย่อตัวข้างล่าง ผมก็จุ๊ๆ ปากและขยิบตาบอกว่าเดี๋ยวจะอธิบายให้เขาฟัง

สักพักพอเสด็จฯ กลับไปในส่วนที่ประทับ พวกเราก็ลุกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ตามเดิม ตอนนี้ผมก็อธิบายให้ จนท.เอกวาดอร์ฟังว่า คนไทยมีความเคารพต่อสถาบันกษัตริย์อย่างสูง การที่เราย่อตัวลงไปนั้น เป็นเพราะพวกเราได้รับการอบรมสั่งสอนมาให้แสดงกริยาที่นอบน้อมที่สุดเวลาที่ต้องถวายงานหรือเข้าเฝ้าฯ จนท.เอกวาดอร์รับฟังแล้วบอกผมว่า เขาชอบวัฒนธรรมไทยมากที่สอนให้คนมีมารยาท มีความ humble เขาบอกตั้งแต่เขาทำงานกับคนมาหลายประเทศ เขาประทับใจกับกริยามารยาทของคนไทยเป็นที่สุด ผมได้ยินก็ดีใจและภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทยภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ที่ได้ทรงนำพาประเทศไทยอยู่รอดปลอดภัยจากภยันตรายต่างๆ มาตลอด


ที่มา : https://www.facebook.com/nickfuang/posts/1664561673900603