กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศชัยชนะในปฏิบัติการปิดล้อมโรงงานเหล็กอาซอฟสตัล (Azovstal) ที่เมืองท่ามาริอูโปล หลังรัฐบาลยูเครนสั่งทหารชุดสุดท้ายที่ยังซ่อนตัวอยู่ให้ “ยอมจำนน” แล้วเมื่อวานนี้ (20 พ.ค.)

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน มีคำสั่งไปยังทหารกลุ่มสุดท้ายที่ยืนหยัดปกป้องโรงงานเหล็กอาซอฟสตัลให้รีบถอนกำลังออกมาเพื่อรักษาชีวิตตนเองไว้

ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศว่า “พื้นที่ในโรงงานเหล็กอาซอฟสตัลได้ถูกปลดปล่อยแล้วอย่างสมบูรณ์” โดยมีทหารยูเครนยอมวางอาวุธเพิ่มอีก 531 นาย ซึ่งเมื่อบวกกับทหารที่ยอมจำนนไปก่อนหน้านี้ก็จะรวมเป็น 2,439 นาย

ขณะเดียวกัน กองทัพรัสเซียได้เริ่มปฏิบัติการโจมตีครั้งใหญ่เพื่อยึดดินแดนส่วนที่เหลือของแคว้นลูฮันสก์ (Luhansk) ที่ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน โดยลูฮันสก์นั้นเป็น 1 ใน 2 แคว้นทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนที่มอสโกได้ประกาศรับรองความเป็นรัฐอิสระ (independent states) ให้

“กองทัพรัสเซียเริ่มการทำลายล้างในเมืองเซียวีโรโดเนตสก์ (Sievierodonetsk) การยิงถล่มได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว และพวกเขายิงใส่ย่านที่อยู่อาศัยของประชาชน ทำให้บ้านเรือนถูกทำลายไปทีละหลังๆ” เซอร์ฮีย์ ไกได (Serhiy Gaidai) ผู้ว่าการแคว้นลูกันสก์ ประกาศผ่านแอปพลิเคชัน Telegram

หลังจากเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำตลอดช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด กองทัพรัสเซียสามารถรุกคืบยึดพื้นที่ในลูกันสก์ได้มากขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์ด้านการทหารชี้ว่าเป็นความพยายามของมอสโกที่จะบรรลุเป้าหมายของสงครามซึ่งลดลงเหลือแค่เพียงการยึดดินแดนฝั่งตะวันออกส่วนที่พวกกบฏโปรรัสเซียอ้างสิทธิครอบครอง

มาธิว บูเลก (Mathieu Boulegue) ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันคลังสมอง Chathan House ในกรุงลอนดอน ระบุว่า “ช่วง 2-3 สัปดาห์ถัดจากนี้จะเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญของสงคราม และมันขึ้นอยู่กับว่า (รัสเซีย) จะประสบความสำเร็จไหนในการยึดเซียวีโรโดเนตสก์ และดินแดนโดยรอบ”

เซียร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ออกมาให้สัมภาษณ์ที่กรุงมอสโกว่า “การปลดปล่อยสาธารณรัฐประชาชนลูกันสก์” กำลังจะเสร็จสมบูรณ์ในไม่ช้า

การยึดมาริอูโปลได้อย่างเบ็ดเสร็จถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับรัสเซีย หลังจากที่ทหารมอสโกเผชิญการต้านทานอย่างหนักจนต้องเป็นฝ่ายล่าถอยหลายครั้งนับตั้งแต่เริ่มต้นรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.

เซเลนสกี ระบุว่า ภูมิภาค “ดอนบาส” ซึ่งครอบคลุมพื้นที่แคว้นลูกันสก์และแคว้นโดเนตสก์อันเป็นที่ตั้งของมาริอูโปล มีสภาพไม่ต่างจาก “นรก” และบ้านเมืองที่นั่นได้ถูกทำลายย่อยยับด้วยน้ำมือของทหารรัสเซีย

ทั้งนี้ การยึดลูกันสก์และโดเนตสก์ได้สำเร็จจะช่วยให้รัสเซียสามารถอ้าง “ชัยชนะ” ตามเป้าหมายที่ประกาศเมื่อเดือน เม.ย. ซึ่งความสำเร็จนี้ก็ดูเหมือนจะใกล้ความจริงเข้าไปทุกที หลังจากที่รัฐบาลยูเครนสั่งให้ทหารในมาริอูโปลยอมวางอาวุธ

สภากาชาดได้ทำการขึ้นทะเบียน “เชลยสงคราม” ให้แก่ชาวยูเครนในโรงงานเหล็กอาซอฟสตัลที่ยอมจำนน ขณะที่ยูเครนก็เรียกร้องขอให้รัสเซียยอมแลกเปลี่ยนตัวเชลยศึก

มอสโกยืนยันว่า เชลยชาวยูเครนเหล่านี้จะได้รับการปฏิบัติอย่างมีมนุษยธรรม ทว่าก็มีนักการเมืองหมีขาวบางคนที่เรียกร้องให้นำเชลยบางคนขึ้นศาล หรือไม่ก็ “ประหารชีวิต” เสีย

ที่มา : รอยเตอร์
https://mgronline.com/around/detail/9650000048167