ส่อง ‘นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป’ โชว์กึ๋นฝ่าวิกฤตโควิด ดัน BLUESKY ชูแกร่งโฆษณา ไม่แพ้ใคร

พลิกเกมธุรกิจสไตล์ ‘นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป’ ย้ำเก่งที่สุดคือ ธุรกิจโฆษณา ดัน BLUESKY เชี่ยวชาญงานโฆษณาแบบ Activation และ Local Media ที่ไม่เหมือนใคร

นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป (Newspective Group) ปรับแผนดัน BLUESKY แม่เหล็กใหม่ในการโฆษณา ลุย Activation และ Local Media ยึดสื่อในตลาดสด-ค้าส่งท้องถิ่นทั่วประเทศ พร้อมรุกเปิดตลาดสื่อภาคใต้ 3 จังหวัดชายแดนทำเลทองแห่งใหม่ หลัง 2 ปีโควิด พ่นพิษ จนธุรกิจอีเวนต์ซึม

ธุรกิจอีเวนต์ และโฆษณา ถือเป็นอีกหนึ่งในตลาดที่มีความคึกคักและเติบโตสูง ก่อนช่วงที่โควิด-19 จะระบาดหนักเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งส่งผลให้ทั้งอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง 

นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป อีกหนึ่งผู้เล่นในตลาดดังกล่าว ตกอยู่ในภาวะยากลำบากจากมาตรการล็อกดาวน์ ปิดสถานที่ งดจัดกิจกรรม ขณะที่แบรนด์ต่างๆ พับเก็บแคมเปญการตลาดและชะลอการใช้จ่ายอย่างมีนัยสำคัญ

นาย ณัฐภูมิ รัฐชยากร กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท นิวสเปคทีฟ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน นิวสเปคทีฟ มี 9 บริษัท ในมือ แต่สิ่งที่ นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป เชี่ยวชาญมากที่สุดคือ ธุรกิจโฆษณา ซึ่งประกอบไปด้วย 3 บริษัทย่อย คือ Brand Square เน้นการสร้าง Branding, Strategy คิดสร้างอัตลักษณ์ให้กับตราสินค้า, NEWAGE ธุรกิจ Event Management & Digital Production House และ BLUESKY ดูแลการโฆษณาแบบ Activation และ Local Media

“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาธุรกิจโฆษณาต้องใช้คำว่าเละเทะ เป็นช่วงที่ยากลำบากของทั้งวงการ โดยธุรกิจของเราที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ NEWAGE ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดงานเลี้ยง แต่เมื่อตลาด Event ถูกล็อก งานเล็กงานใหญ่ไม่สามารถจัดได้ เราก็ต้องปรับตัวไปเป็น Digital Production House หรือหันมาทำคลิปวิดีโอ และ Live Streaming เสิร์ฟ Event ออนไลน์แก่ลูกค้าแทน

“อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของธุรกิจอีเวนต์ในปีนี้ น่าจะขยับตัวเติบโตขึ้นได้มากขึ้น แต่จะมากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นกับภาพรวมของประเทศต่างๆ ภาพถึงรวมของเศรษฐกิจโลกกว่า จะเปิดหน้าหรือล่าถอยแค่ไหน ซึ่งหากไม่มีเหตุอันใดสะดุด คาดว่าปลายปีธุรกิจอีเวนต์จะกลับมาคึกคักแน่นอน”

ความน่าสนใจของ นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป ที่ถือเป็นกรณีศึกษาของธุรกิจรายย่อยที่ ไม่ปล่อยให้ธุรกิจล้มครืนไปตามคลื่น Crisis คือ แม้ว่าธุรกิจอีเวนต์จะอยู่ในช่วงขาลง แต่ นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป พยายามพัฒนายูนิตธุรกิจอื่นๆ ที่มี โดยเลือกความเป็นไปได้ที่สอดรับกับกระแสธารของตลาด เพื่อดันสวนขึ้นมา จนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นสัดส่วนรายได้หลักกว่า 80% ของกรุ๊ป ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

BLUESKY เป็นหนึ่งธุรกิจในเครือ ที่ถูกยกขึ้นมาเติมเต็มในช่วงที่ตลาด Event หดหาย โดย BLUESKY ดำเนินธุรกิจด้านการโฆษณาแบบ Activation และ Local Media มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ทำงานแบบ Local Partnership หรือพัฒนาสื่อให้ตอบโจทย์กับเอเจนซี่โฆษณา นักการตลาด และเจ้าของสินค้าต่างๆ

“ข้อได้เปรียบของ BLUESKY โดยเฉพาะในด้าน Local Media นั้น มาจากการพัฒนาสื่อท้องถิ่น ให้เป็นประโยชน์ต่อเจ้าของพื้นที่ และสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ในเวลาเดียวกันมาอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าได้คลุกคลีทั้งแบรนด์ใหญ่และคนท้องถิ่นมาตลอด ทำให้เราเข้าใจแบรนด์ หรือสินค้าแบบไหนควรสื่อสารอะไรกับคนในจังหวัดนั้นๆ หรือพื้นที่นั้นๆ อย่างไรได้เป็นอย่างดีซึ่งถ้าเป็นนักการตลาดทั่วไปก็จะเน้นซื้อบิลบอร์ดหรือสื่อวิทยุ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น แต่การที่จะเข้าใจและเข้าไปอยู่ในใจเขา จำเป็นต้อง Customize คอนเทนต์ให้เข้ากับพื้นที่ พอ BLUESKY มีจุดแข็งแบบนี้เป็นพื้นฐาน เราก็นำธุรกิจนี้วิ่งเข้าหานักการตลาด นักโฆษณา เอเจนซี่ เจ้าของสินค้า ได้ทันที ภายใต้การทำงานที่ยืดหยุ่น ซึ่งลูกค้าชื่นชอบอย่างมาก” ณัฐภูมิ กล่าว

ด้าน นางสาวหนึ่งฤทัย บางนาชาด ผู้จัดการทั่วไป BLUESKY เผยเพิ่มเติมว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงที่กิจกรรมทางการตลาดเงียบ ทั้งเอเจนซี่และแบรนด์ต่างๆ ลดงบในการทำโฆษณาลง หรือเทงบไปที่ออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ แต่สื่อ Local Media ยังเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์สังคมอยู่ เพราะคนยังต้องใช้ชีวิตกันนอกบ้าน ในท้องถิ่น

“ในช่วงนั้น เรามีการสร้างสรรค์ สื่อ Local Media ขึ้นมาเอง และได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้ามีการซื้อซ้ำจากลูกค้าหลายแคมเปญ นั่นคือ สื่อที่เหยียบเจลแอลกอฮอล์ ใช้จังหวะของโควิดพลิกมาเป็นโอกาสในการสร้างเสริมภาพลักษณ์แก่แบรนด์ โดยการ Tie In สินค้าเข้าไปตรงจุดที่เหยียบเจลแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถติดตั้งได้หลากหลายพื้นที่ ทั้งตลาดสด ร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่ หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทำให้ แคมเปญของลูกค้าที่ลงโฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายท้องถิ่นได้ในวงกว้าง

“หรือกรณี Activation แคมเปญอย่าง แบรนด์น้ำปลาร้าแม่บุญล้ำ ที่ต้องการโปรโมตเพลงของตนให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในตลาดและออนไลน์ทั่วไป เราก็สามารถสร้างสรรค์แคมเปญขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างรอบด้าน มีการ Integrate ระหว่างสื่อ Online & On Ground โดยใช้ แฮปปี้ มาร์เก็ต ชาแนล สื่อวิทยุกระจายเสียงตามสายในตลาดของเราเองเป็นฐาน ในการโปรโมตเพลง เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนเดินตลาดโดยตรง เริ่มจากปล่อยเพลงแม่บุญล้ำของลูกค้าในวิทยุกระจายเสียงตามสายในตลาด เพื่อแทรกซึมให้คนในตลาดได้ยินบ่อยๆ พอคนเริ่มได้ฟังเพลงและเริ่มรู้จัก เราก็จัดกิจกรรมการแข่งขันที่มีส่วนร่วมกับเพลง และเติมเงินรางวัลเป็นตัวกระตุ้น ให้คนอยากร่วมสนุกกับกิจกรรม 

“พร้อมทั้งเปิดกว้างให้คอนซูเมอร์สามารถสร้างคลิป Style ของตัวเอง ได้แบบไม่จำกัดรูปแบบ เลือกใช้ Platform Tiktok ในการสร้างสรรค์คลิปเพราะผู้ร่วมกิจกรรม สามารถเข้าถึงได้ง่าย และ Tiktok เป็น Platform มี Engagement สูง เลือกใช้ Influencer ในรูปแบบที่แตกต่างกัน เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ได้หลากหลาย เช่น แนวตลก วาไรตี้ อย่างคุณพีท พามานา กลุ่มเด็กๆ ที่สร้างสรรค์คลิปเชิงบวกอย่างน้องๆ เด็กเซราะกราว กลุ่มคนทำกับข้าว อย่างพ่อตาพาแซ่บ หรือ Idol วัยรุ่นทั่วไปใน tiktok อย่างอายรดา หรือล็อตเต้ Etc.  

“หลังจากนั้นก็มีการลงพื้นที่ทำทรูปในตลาดเพื่อเชิญชวนพ่อค้า แม่ค้าและคนเดินตลาด ให้เข้ามาร่วมกิจกรรมใน Online ซึ่งผลตอบรับของกิจกรรมนี้ได้ผลตอบรับที่ดีมากๆ มีพ่อค้า แม่ค้าในตลาดและคนใน Online เข้าร่วมกิจกรรมกับเราเป็นจำนวนมากค่ะ

“ไม่เพียงเท่านี้ ในส่วนของ Local Media อีกชิ้นที่เรากำลังทำคือ เคสเครื่องดื่มชูกำลังฉลาม ซึ่งเราลุยในตลาดสดภาคใต้ รวมถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 

“‘ตลาดสด’ นอกจากจะเป็นที่สำหรับจับจ่ายใช้สอยของกินของใช้แล้ว ยังเป็นสถานที่ ที่ทำให้เราได้มีโอกาสเรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรมการกินอยู่ ของคนท้องถิ่นในพื้นที่นั้นๆ ได้เป็นอย่างดี เรียกว่าเป็นสถานที่แสนจะธรรมดาและเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของความแตกต่างหลากหลายในแต่ละท้องถิ่นนั้นๆ

“เราจึงแนะนำให้ลูกค้าสร้างแลนด์มาร์คที่ตลาดเลยค่ะ โดยการ Dominate พื้นที่ตลาดให้เป็นแบรนด์สินค้า โดดเด่น และดึงดูดสายตา สร้างความจดจำได้เป็นอย่างดี รวมถึงมีประโยชน์กับทางสถานที่ด้วยค่ะ”

สำหรับทิศทางของ นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป หลังจากนี้ หนึ่งฤทัย เน้นย้ำว่า BLUESKY จะยังคงเป็นแกนหลักของกรุ๊ปต่อไป โดยมีแผนธุรกิจใน 2 ส่วนที่จะโฟกัสคือ 1. ทำสื่อในค้าส่งต่างจังหวัด 2. พัฒนาสื่อของ BLUESKY เองคือ แฮปปี้ มาร์เก็ต ชาแนล ที่มีฐานผู้ฟังเป็นพ่อค้าแม่ขายคนในตลาดให้แข็งแรงขึ้น

“ปีนี้ BLUESKY มีแผนที่จะจับมือกับค้าส่งท้องถิ่น ซึ่งมีความแข็งแกร่งและกุมลูกค้าในจังหวัดนั้นๆ ได้หมดเลย และสินค้ามีราคาถูกกว่าท้องตลาดและมีพาวเวอร์ในการต่อรองกับแบรนด์สินค้าต่างๆ จึงคิดว่าควรจะมีสื่อโฆษณาในค้าส่งท้องถิ่นเพราะคนเข้าใช้บริการเยอะก็จะเป็นโอกาสของแบรนด์ ในการเข้าถึงเป้าหมาย

“และอีกตัวที่เรามีแผนที่จะพัฒนาต่อก็คือ แฮปปี้ มาร์เก็ต ชาแนล ของเราที่กระจายเสียงในตลาดสด ซึ่งตอนแรกเราทำเฉพาะวิทยุอย่างเดียว ตอนนี้เราเน้นการทำออนไลน์เพิ่มขึ้น เพื่อที่เวลาลูกค้าลงสื่อกับเรา จะสื่อที่ครอบคลุมหลายแพลตฟอร์มและในอนาคตเราอยากจะพัฒนาให้ตัวแฟนเพจมีผู้ติดตามมากขึ้นโดยเริ่มจากกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในตลาดก่อน” หนึ่งฤทัย เสริม

นอกจากนี้ BLUESKY ยังมีแผนขยายตลาดไปยังภาคใต้โดยเฉพาะ ยะลา, ปัตตานี และเบตง หลังจากโซนอีสานและเหนือเป็นตลาดที่แข็งแรงและ BLUESKY มีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว โดยเล็งเห็นว่า ภาคใต้มีเศรษฐกิจท้องถิ่นที่เติบโตได้ดี โดยอาศัยเฉพาะคนในท้องถิ่นเป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักโดยไม่ต้องพึ่งพานักท่องเที่ยว และมีการตอบรับแบรนด์ที่จะเข้าไปทำการตลาดเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันในช่วงที่ผ่านมายังไม่มีนักการตลาดหรือแบรนด์เข้าไปทำการตลาดในพื้นที่ภาคใต้มากนัก

“ภาคใต้มีเศรษฐกิจที่ดีมาก เขาไม่ได้ง้อนักท่องเที่ยวเขาอยู่ได้ด้วยคนในท้องถิ่น ซึ่งก่อนหน้านี้เราเริ่มเปิดตลาดในอีสานกับเหนือเมื่อเราชำนาญแล้วเราก็เริ่มขยายตัวเองลงไปหาโอกาสใหม่ๆ คือภาคใต้ และเรามั่นใจว่าในเรื่องของ Activation และ Local Media เราติดอันดับต้นๆ ของตลาดเพราะเรามีความชำนาญ ตอบโจทย์ และเลเยอร์ในการทำงานของเรากับลูกค้าน้อยมาก ทำให้ปรับได้เร็ว แก้ไขทัน เอเจนซี่จึงชอบและอยากเป็น Partner กับเรา 

“ดังนั้นไม่ว่าอุตสาหกรรมสื่อจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งมากขึ้นก็ตามแต่ BLUESKY ยังสามารถเติบโตในแบบของเราในทิศทางของ Activation, การทำสื่อในตลาดสด, การทำ Local Media ในรูปแบบเฉพาะของเรา ทำให้เราไม่ต้องไปแข่งขันกับใคร ดังนั้นในกลุ่มของเรา BLUESKY จึงเป็นกลุ่มธุรกิจที่เราต้องผลักดันอย่างมากต่อไป” ณัฐภูมิ ทิ้งท้าย


ที่มา: https://www.thansettakij.com/business/524439