“พี่เอ้” โชว์วิสัยทัศน์แก้ปัญหาน้ำเน่าใน กทม.ลั่นต้องแก้ด้วยหลักวิศวกรรม ต้องมีข้อมูล ไม่ใช่คิดเอง เสนอแนวทางแก้ปัญหาทั้งระยเร่งด่วน-ระยะยาว

ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในงาน เสวนาผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. กับการบริหารจัดการขยะ น้ำ อากาศ และเมืองยั่งยืน หัวข้อ “การจัดการน้ำเสีย และขยะในกรุงเทพมหานคร” จัดโดย เครือข่าย คณาจารย์นิสิตนักศึกษาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมประเทศไทย และ ภาควิชาวิศกรรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ว่าสาเหตุหลักของน้ำเน่า ไม่ใช่เกิดจากขยะเป็นหลัก แต่เกิดจากการจัดการน้ำเสียส่วนหนึ่ง และการไหลเวียนของน้ำอีกส่วนหนึ่ง ทั้งนี้จากการลงพื้นที่มาครบทั้ง 50 เขต พบว่าหลายคลองใน กทม. ปล่อยให้น้ำนิ่ง เมื่อน้ำนิ่งไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน ประกอบกับมีการปล่อยน้ำเสียที่มีคราบน้ำมันเคลือบผิวน้ำ ทำให้น้ำไม่สามารถผันออกซิเจนได้ ทำให้น้ำเน่า และยิ่งปล่อยให้เน่าเสียเป็นเวลานานก็จะเกิดแก๊สและสารพิษ เป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้อยู่อาศัยรอบๆ คลอง 

นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า ตนจึงได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาไว้ 2 ระยะ ดังนี้  ระยะเร่งด่วน ต้องแก้ให้น้ำมีการเคลื่อนไหว โดยคำนวณจากระดับน้ำขึ้น-น้ำลง และต้องมีระบบเปิด-ปิดประตูระบายน้ำอัตโนมัติ เพื่อผันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่ลำคลอง และเมื่อน้ำลงก็ส่งน้ำจากคลองลงสู่ทะเล ส่วนระยะยาว ต้องจัดการระบบการบำบัดน้ำเสีย เพราะปัญหาขณะนี้คือ หลายแห่งมีระบบบำบัดน้ำเสีย แต่ท่อส่งน้ำเสียจากครัวเรือนกลับส่งไปไม่ถึง และในหลายพื้นที่ หลายชุมชน มีการปล่อยน้ำเสียลงสู่คลองโดยตรง ดังนั้นจึงต้องจัดการให้น้ำเสียเหล่านี้ถูกส่งไปให้ถึงระบบบำบัด พร้อมกับจัดให้มีการบำบัดน้ำเสียในชุมชนด้วย 
 

“ขอย้ำว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือ ขณะนี้ไม่มีการสำรวจข้อมูลที่เป็นปัจจุบันของแม่น้ำ ลำคลอง ผมพบว่ามีคลองบางแห่งสูญหายไปแล้วจากการลักลอบถมที่ และคลองบางแห่งไม่มีชื่อ หรือแม้กระทั่งปริมาตรความจุของคลอง ทั้งลักษณะความกว้าง ความยาว ความลึก เมื่อเราไม่รู้สิ่งเหล่านี้ การจัดการน้ำในอนาคตจะทำได้ยาก ซึ่งการแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยหลักวิศวกรรม จำเป็นต้องมีข้อมูล ไม่ใช่คิดเอาเองว่าควรจะเป็นอย่างไร เพราะการทำแบบนั้นทำให้แก้ปัญหาไม่ได้”นายสุชัชวีร์ กล่าว