“นายกฯ” พอใจ มูดี้ส์ คงอันดับไทย ประเทศน่าเชื่อถือ ย้ำรัฐบาล ดูแลปชช.-บริหารฐานะการคลังให้มั่นคง 

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รับทราบรายงานจากกระทรวงการคลัง ถึงการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ  Moody’s Investors Service หรือ มูดี้ส์ ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ Baa1 หรือเทียบเท่า BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ที่ระดับมีเสถียรภาพ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกฯพอใจ ที่ประเทศไทยได้รับการคงอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งมูดี้ส์มีมุมมองค่อนข้างเป็นบวกต่อสถานะของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิผลของนโยบายเศรษฐกิจ มาตรการเยียวยาดูแลประชาชนในช่วงวิกฤตโควิด19  ความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจที่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง ประเมินว่าโครงการอีอีซีจะสนับสนุนการลงทุนและการเติบโตของประเทศไทยในระยะยาวอย่างแข็งแกร่ง และยังมองว่าใน 2-3 ปี เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง โดยมูดี้ส์ได้คาดว่าจีดีพีของไทยปี 2565-66 จะเติบโต 3.4% และ 4.8% ตามลำดับ

และขอบคุณทุกภาคส่วนและทุกระดับของทั้งภาครัฐ ธุรกิจเอกชน ประชาสังคม ประชาชน ที่ร่วมกันทำงานตามภารกิจของตนเองและที่เกี่ยวกับการสนับสนุนหน่วยงานอื่นๆ สามารถร่วมกันขับเคลื่อนประเทศจนนักลงทุน นักท่องเที่ยวรวมถึงบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือมีความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย โดยระยะต่อไปรัฐจะมุ่งมั่นดำเนินงานตามแผนงาน ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทในระดับต่างๆ เพื่อให้การเพิ่มศักยภาพของประเทศ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ลดความเหลื่อมล้ำในมิติต่างๆ ให้เป็นไปตามเป้าหมาย 

“นายกฯพอใจกับผลการประเมินประเทศไทยที่ออกมาล่าสุด เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงที่ต้องเผชิญกับวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด19 เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก  แต่รัฐบาลใช้ความพยายามเต็มที่ในการดูแลชีวิต ความปลอดภัย ความเป็นอยู่ของประชาชน และบริหารฐานะการเงิน การคลังของประเทศให้มั่นคง เนื่องจากเป็นภาคที่มีผลอย่างสำคัญต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและการลงทุนในระยะยาว โดยนายกฯย้ำว่ารัฐบาลจะคงนโยบายการดูแลประชาชนไปพร้อมกับการสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยให้เพิ่มขึ้น ทั้งการรักษาฐานะการเงินการคลัง การขับเคลื่อนนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มศักยภาพประเทศ