นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช หลังได้รับรายงานฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ ส่งผลกระทบทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดอนสัก และอำเภอกาญจนดิษฐ์ รวม 4 ตำบล 16 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ จำนวน 38 ครัวเรือน และพื้นที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช บริเวณ บ้านเขาฝ้าย มีน้ำเอ่อล้นท่วมถนน รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ รวมทั้งทางเข้า บ้านน้ำร้อน หมู่ 1 ต.สี่ขีด อ.สิชล ตัดขาดเรียบร้อย ไม่สามารถสัญจรไปมาได้

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ อุทกภัย วาตภัย และดินถล่มของทั้งสองจังหวัด เน้นย้ำให้อำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ แจ้งเตือนทุกอำเภอ และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก อย่างใกล้ชิด พร้อมให้ความช่วยเหลืออพยพประชาชนที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วน ควบคู่กับเร่งสำรวจความเสียหาย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบทางราชการโดยเร็วต่อไป ทั้งนี้ แนวโน้มสถานการณ์ขณะนี้ยังมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ เตือนประชาชนเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 5-8 เมษายน 2565 บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

“นายกรัฐมนตรีขอให้ประชาชนทุกคนระมัดระวังรักษาสุขภาพ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงทั้งร้อนและหนาวรวมถึงฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ ขอให้ติดตามการแจ้งเตือนจากส่วนราชการอย่างใกล้ชิด ขอให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่โดยเฉพาะส่วนท้องถิ่นซึ่งเป็นข้าราชการส่วนหน้าคอยให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ให้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ให้น้อยที่สุด อะไรที่เป็นการแบ่งเบาความเดือดร้อนของประชาชนขอให้เร่งดำเนินการทันที ต้องประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชน เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์ ” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

นอกจากนี้ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงข้อสั่งการ และคำปรารภของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ว่า นายกฯแจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงการลงพื้นที่คลองโอ่งอ่าง เป็นการติดตามการดำเนินงานความเป็นอยู่ของประชาชน เพื่อสร้างการรับรู้ การแก้ไขปัญหาการระบายน้ำสู่คลอง ตามที่ชาวบ้านและชุมชนสะท้อนมา ถ้าสามารถระบายน้ำได้ดี จะช่วยลดปัญหายุง และลดขยะไขมัน ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการระบายน้ำ และนายกฯยังชื่นชมการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองสวยน้ำใส ที่มีความก้าวหน้า ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม สร้างเม็ดเงินการท่องเที่ยงให้ประเทศ ดังนั้นการลงพื้นที่คลองโอ่งอ่างจึงไม่ใช่การหาเสียง 

//////////