'ยูเครน' โวย!! รัสเซียผิดคำพูดเดินหน้าถล่มรอบกรุงเคียฟ บีบีซีอ้าง!! 'ปูติน'​ ขู่ไม่หยุดโจมตีมาริอูโปลจนกว่ายอมจำนน

กองกำลังรัสเซียทิ้งบอมบ์ถล่มพื้นที่ต่างๆ รอบกรุงเคียฟ และเมืองอื่นอีกแห่ง ไม่กี่ชั่วโมงหลังสัญญาลดระดับปฏิบัติการลงในพื้นที่แถบนี้ เพื่อส่งเสริมความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างสองฝ่าย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ยูเครนในวันพุธ (30 มี.ค.) ขณะเดียวกัน สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน บอกว่าการยิงถล่มเมืองมาริอูโปลที่ถูกปิดล้อมนั้นจะยุติลงก็ต่อเมื่อทหารของยูเครนยอมวางอาวุธ

การยิงถล่มและโจมตีอย่างหนักหน่วงของรัสเซียในหลายพื้นที่ของยูเครน กัดเซาะมุมมองในแง่บวกเกี่ยวกับความคืบหน้าใดๆ ในการเจรจาสันติภาพที่มีเป้าหมายหยุดสงครามที่สร้างความเจ็บปวดทรมาน

ในคำแถลงเมื่อวันอังคาร (29 มี.ค.) กองทัพรัสเซียระบุว่าจะลดระดับปฏิบัติการใกล้เมืองหลวงและเมืองเชอร์นิฮิฟ ทางภาคเหนือของประเทศ "เพื่อเพิ่มความไว้เนื้อเชื่อใจกันและสร้างสภาพแวดล้อมสำหรับการเจรจาในอนาคต" แต่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน และตะวันตกรู้สึกคลางแคลงใจเป็นอย่างมาก

ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ยูเครนรายงานว่ารัสเซียยิงปืนใหญ่ถล่มบ้าน ร้านค้า ห้องสมุด และที่ตั้งพลเรือนอื่นๆ ทั้งในและรอบๆ เมืองเชอร์นิฮิฟและแถบชานเมืองของกรุงเคียฟ นอกจากนี้ ทหารรัสเซียยังยกระดับโจมตีในภูมิภาคดอนบาสทางภาคตะวันออกและรอบๆ เมืองอิซุม ซึ่งตั้งอยู่บนเส้นทางหลักที่มุ่งหน้าสู่ดอนบาส หลังจากจัดวางกองกำลังใหม่จากพื้นที่อื่นๆ

โอเล็กซานเดอร์ โลมาโก เลขาธิการสภาเมืองเชอร์นิฮิฟ บอกว่าคำแถลงของรัสเซียปรากฏชัดแล้วว่าเป็นคำโกหกโดยสิ้นเชิง "ตอนกลางคืนไม่เขาไม่ได้ลดระดับลง แต่ในทางกลับกันได้เพิ่มความหนักหน่วงของปฏิบัติการด้านการทหาร”

5 สัปดาห์หลังการรุกราน มีผู้เสียชีวิตแล้วหลายพันคนจากทั้ง 2 ฝ่าย จำนวนชาวยูเครนที่หลบหนีออกนอกประเทศพุ่งแตะระดับ 4 ล้านคน ในนั้นครึ่งหนึ่งเป็นเด็ก จากข้อมูลของสหประชาชาติ

ในการเจรจาในอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันอังคาร (29 มี.ค.) ความเป็นไปได้ของข้อตกลงสันติภาพดูเหมือนจะปรากฏขึ้น เมื่อผู้แทนของยูเครนเสนอกรอบๆ หนึ่ง ซึ่งประเทศของพวกเขาจะประกาศตนในฐานะเป็นกลาง ละทิ้งความพยายามเข้าร่วมนาโต้ ตามข้อเรียกร้องของมอสโก แลกกับคำรับประกันด้านความปลอดภัยจากกลุ่มประเทศอื่นๆ

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียตอบสนองในแง่บวก โดยเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศระบุในวันพุธ (30 มี.ค.) ว่าความตั้งใจของยูเครนที่จะยอมรับสถานะเป็นกลางและมองหาความมั่นคงนอกนาโต้ เป็นตัวแทนของความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม หลังคำแถลงของเครมลินว่าจะลดระดับปฏิบัติการด้านการทหาร เซเลนสกีแสดงตอบสนองด้วยความสงสัย โดยบอกว่าเมื่อคุณเจรจาต่อรองกับรัสเซีย "คุณสามารถไว้วางใจได้เพียงผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมเท่านั้น" คำประเมินที่ไปในทิศทางเดียวกับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และโดมินิค ราบ รองนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ซึ่งสงสัยว่ารัสเซียมีเจตนารวบรวมกำลังพลใหม่และโจมตีอีกครั้ง

ความคลางแคลงใจดังกล่าวดูเหมือนจะมีเหตุผล สืบเนื่องจากความเคลื่อนไหวต่างๆ ของรัสเซียในวันพุธ (30 มี.ค.) ในนั้นรวมถึงกรณีที่ นายพลโอเล็กซานด์ร พาฟลุค ผู้บัญชาการเขตพื้นที่มณฑลทหารเคียฟ เผยว่ารัสเซียยิงปืนใหญ่เล็งเป้าหมายเล่นงานพื้นที่ชุมชนและโครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือนในเมืองบูชา โบรวารี และวิชโฮรอด รอบๆ เมืองหลวง

พล.ต.อิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า ทหารเล็งเป้าหมายเล่นงานคลังเชื้อเพลิงใน 2 เมืองในแถบภาคกลางของยูเครน โดยใช้ขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลยิงจากอากาศโจมตี และกองกำลังรัสเซียยังได้ถล่มกองบัญชาการกองกำลังพิเศษยูเครนแห่งหนึ่งในเมืองมีโคลายิฟ และคลังกระสุน 2 แห่งในแคว้นโดเนตส์ค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคดอนบาส

สหรัฐฯ ระบุว่าในช่วง 24 ชั่วโมงหลังสุด รัสเซียเริ่มสับเปลี่ยนที่ตั้งกองกำลังของตนเองไม่ถึง 20% ที่อยู่ตามแนวรบรอบๆ กรุงเคียฟ

จอห์น เคอร์บี เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนทำเนียบขาวระบุว่า ทหารจากพื้นที่ดังกล่าวและจากโซนอื่นบางแห่งเริ่มเคลื่อนไหวมุ่งหน้าสู่ทางเหนือเป็นส่วนใหญ่ และบางส่วนเข้าไปในเบลารุส ซึ่งเคียฟมองว่าดูเหมือนรัสเซียมีเจตนาจัดหากำลังบำรุงใหม่ให้พวกเขาและส่งพวกเขากลับเข้าไปในยูเครน แต่ไม่ชัดเจนว่าจะเป็นจุดไหน

เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของรัสเซียระบุในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ว่า เป้าหมายหลักของพวกเขาในเวลานี้คือ "ปลดปล่อยดอนบาส" ภูมิภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญซึ่งประชาชนพูดภาษารัสเซีย พื้นที่ซึ่งพวกกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียต่อสู้กับกองกำลังยูเครนมาตั้งแต่ปี 2014 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตะวันตกบอกว่ามอสโกกำลังเสริมกำลังทหารในดอนบาส

พวกนักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าการมุ่งเน้นภูมิภาคดอนบาส และสัญญาลดปฏิบัติทางทหาร อาจเป็นแค่ความพยายามกลบความจริงที่ว่า กองกำลังภาคพื้นของรัสเซียถูกสกัดกั้นและได้รับความสูญเสียอย่างหนัก ในความพยายามยึดเมืองหลวงและเมืองอื่นๆ

ด้านสำนักข่าวบีบีซี สื่อมวลชนของอังกฤษ รายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้กล่าวว่าการยิงระเบิดถล่มเมืองมาริอูโปล ที่ถูกกองกำลังของเขาปิดล้อมนั้นจะยุติลงก็ต่อเมื่อทหารของยูเครนยอมจำนน

คำพูดของ ปูติน เกิดขึ้นระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมงในคืนวันอังคาร (29 มี.ค.) สำนักข่าวบีบีซีอ้างอิงคำแถลงของวังเครมลิน

อย่างไรก็ตาม ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสเผยว่าผู้นำรัสเซียเห็นพ้องพิจารณาแผนต่างๆ ในการอพยพพลเมืองออกจากเมืองแห่งนี้ ซึ่งจากนั้นไม่นานทางรัสเซียได้ออกมาประกาศหยุดยิงเป็นเวลา 1 วัน ในวันพฤหัสบดี (31 มี.ค.)

กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า การหยุดยิงจะเริ่มตอน 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) และจะอนุญาตให้ประชาชนเดินทางไปทางทิศตะวันตกมุ่งหน้าสู่ซาปอริซเซีย ผ่านเมืองท่าเบอร์เดียนสค์ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย

ทางกระทรวงกลาโหมรัสเซียบอกว่าพวกเขาต้องการให้สภากาชาดและหน่วยงานผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติเข้าร่วมปฏิบัติการอพยพในครั้งนี้ด้วย และเผยว่ายังอยู่ระหว่างรอการขานรับข้อเสนอจากฝ่ายยูเครน

ความพยายามที่ผ่านมาในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในมาริอูโปลพังครืนลง ท่ามกลางการกล่าวหากันไปมาของทั้งสองฝ่ายว่าอีกฝ่ายเชื่อใจไม่ได้ นอกจากนี้ รัสเซียยังถูกกล่าวหาบีบโยกย้ายพลเรือนหลายพันคนไปยังรัสเซีย หรือพื้นที่ต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย

คำแถลงหยุดยิงมีขึ้นในขณะที่ภาพถ่ายดาวเทียมชุดใหม่ เผยให้เห็นสภาพความเสียหายเลวร้ายในเมืองมาริอูโปล หลังจากถูกยิงถล่มอย่างหนัก โดยภาพถ่ายจาก Maxar บริษัทภาพถ่ายดาวเทียมเชิงพาณิชย์ พบเห็นพื้นที่ชุมชนเหลือแต่ซากปรักหักพัง

เจ้าหน้าที่จากทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส เรียกสถานการณ์ในเมืองแห่งนี้ว่า "หายนะ" พร้อมระบุว่าพลเรือนต้องได้รับการปกป้องและต้องได้รับอนุญาตให้ออกจากเมืองหากพวกเขาปรารถนา นอกจากนี้ ชาวบ้านยังต้องเข้าถึงอาหาร น้ำ และยารักษาที่จำเป็น


ที่มา : เอพี/บีบีซี
https://mgronline.com/around/detail/9650000031107