คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกล่าวหา ‘รัสเซีย’ ต้นเหตุวิกฤติอาหารโลก​ หลังเริ่มสงครามกับยูเครน

นิวยอร์ก (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส) - รัสเซียถูกกล่าวหาในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดวิกฤตการณ์อาหารโลกและทำให้ผู้คนทั่วโลกเสี่ยงต่อภาวะอดอยากจากการเปิดฉากทำสงครามในยูเครน ซึ่งได้รับสมญานามว่าเป็นตะกร้าขนมปังของยุโรป (Breadbasket of Europe)

เวนดี เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวในระหว่างการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่าด้วยสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในยูเครนว่า ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เป็นผู้ริเริ่มสงครามในยูเครนและทำให้เกิดวิกฤตการณ์อาหารโลก รัสเซียและประธานาธิบดีปูตินต้องเป็นผู้รับผิดชอบจากการนำกำลังทหารบุกโจมตียูเครนที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของอาหารโลก

ด้าน นิโคลัส เดอ ริวิแยร์ ผู้แทนถาวรฝรั่งเศสประจำสหประชาชาติ ระบุว่า การบุกโจมตียูเครนอย่างหนักหน่วงของรัสเซียทำให้ทั่วโลกเสี่ยงเกิดภาวะอดอยากมากขึ้นและประชากรของประเทศกำลังพัฒนาจะได้รับผลกระทบเป็นอันดับแรก แต่รัสเซียจะอ้างว่าปัญหาเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นจากการถูกนานาชาติคว่ำบาตรที่ทำให้เกิดความไม่สมดุลต่อภาวะความมั่นคงอาหารโลก ส่วน วาสซิลี นีเบนเซีย ผู้แทนถาวรรัสเซียประจำสหประชาชาติ แย้งว่า แท้จริงแล้ว ภาวะผันผวนของตลาดอาหารโลกเกิดขึ้นจากการที่ชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรอย่างไม่รู้จักควบคุมต่อรัสเซีย

ทั้งนี้ เชอร์แมน และ เดวิด บีสลีย์ ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลก รายงานว่า ยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตธัญพืชรายใหญ่ของโลก มีอัตราส่งออกข้าวสาลี ร้อยละ 30 ข้าวโพด ร้อยละ 20 และน้ำมันทานตะวัน ร้อยละ 75 ของโลก แต่สงครามในยูเครนส่งผลกระทบต่อโลกมากกว่าที่เคยเห็นนับตั้งแต่สงครามโลก ครั้งที่ 2 และจะทำให้อาหารขาดแคลน ขณะที่ราคาเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย เพราะมันได้เปลี่ยนยูเครนซึ่งเคยเป็นอู่ข่าวอู่น้ำของโลก ให้กลายเป็นประเทศที่ต้องเข้าคิวเพื่อรับการปันขนมปัง และว่าราว 50% ของธัญพืชที่โครงการอาหารโลกซื้อเพื่อนำไปใช้ในโครงการความช่วยเหลือด้านอาหารต่างๆ ของสหประชาชาติมาจากยูเครน เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เห็นถึงหายนะที่จะเกิดขึ้น เพราะขณะนี้เกษตรกรกลายเป็นคนที่อยู่ในแนวหน้าของการสู้รบ


ที่มา : https://www.naewna.com/inter/644652