“อนุทิน” ชี้! ภท.ไม่คิดหนีรถไฟสายเขียวพร้อมร่วมประชุม ครม. ยัน สธ.ไม่ปิดบังข้อมูล ปม “ยาฟาวิพิราเวียร์ โต้ ยังมีพอ   ป้องสธ.รู้ดี ไล่ “หมอชนบท”ให้ทำหน้าที่รักษาให้ดี 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี  และรมว.สาธารณสุข เดินทางมาร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี หลังมีกระแสข่าวจะลาการประชุมเพราะเพิ่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มที่ 5 โดยให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อเช้าตนมีอาการรุมๆเหมือนเป็นไข้เพราะเมื่อคืนนอนดึก แต่พอทานยาพาราไปแล้วก็หาย เลยมาร่วมประชุม 

เมื่อถามว่าการที่นายอนุทิน ไม่ร่วมประชุมตั้งแต่ต้นทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะหลีกเลี่ยงการพิจารณารถไฟฟ้าสายสีเขียว นายอนุทิน กล่าวว่า ไปลือกันทำไม ไม่เกี่ยวเลย ถึงแม้สายสีเขียวจะเข้า ตนก็จะมาร่วมประชุมอยู่แล้ว จะไปกลัวอะไร และสัปดาห์วันที่ 18 เม.ย.ตนมีภารกิจที่ภาคเหนืออาจไม่สามารถเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีได้บอกไว้ก่อนเลยอย่าไปลือกันอีก เมื่อถามว่ากรณีรถไฟฟ้าสายสีเขียวตอนนี้

กทม.ได้มาคุยกับกระทรวงคมนาคมแล้วหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องถาม รมว.คมนาคม เพราะทราบแต่ว่ามีคำถามจากกระทรวงคมนาคมไปยังกทม.หลายรอบแล้ว รัฐมนตรีเขาก็รายงานว่ากำลังรอการชี้แจง ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมายตามระเบียบก็จะไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่เป็นตามระเบียบเราก็ต้องขอให้มาชี้แจง ไม่ได้บอกว่าจะค้านหัวชนฝาซึ่งไม่ใช่ 

เมื่อถามว่าพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ลาออกจากผู้ว่าฯกทม. จะมีผลอะไรกับการพิจารณารถไฟฟ้าสายสีเขียวหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เกี่ยวเพราะพล.ต.อ.อัศวิน ก็บอกว่าเรื่องรถไฟฟ้าเกิดขึ้นก่อนรับตำแหน่ง 

นอกจากนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีกลุ่มแพทย์ชนบท ระบุยาฟาวิพิราเวียร์ ขาดแคลน ต้องมีการรายงานเรื่องนี้ให้ครม.รับทราบหรือไม่ ว่า จะมีรายงานผ่านมาทางศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) ที่มีการประชุมอยู่ทุกวัน โดยยาฟาวิฯมีทั้งผลิตในประเทศและนำเข้า และยังมีโมลนูพิราเวียร์ และแพคโลวิคเข้ามาเสริม ส่วนการรักษาโควิด-19 เวลานี้เป็นช่วงที่ก้าวผ่านจากเชื้อเดลตาและเชื้อที่รุนแรงมาแล้ว มาเป็นเชื้อที่ไม่มีความรุนแรง ซึ่งทางคณะแพทย์และกรรมการด้านวิชาการที่ดูแลเรื่องการรักษา ก็จะออกแบบรูปแบบของการจ่ายยาว่าจะเป็นอย่างไร หากยังใช้ฟาวิฯวันละกว่า 2 ล้านเม็ด ก็อาจจะไม่ถูกต้อง แพทย์จึงต้องมีการปรับการบริหารจัดการยา ย้ำว่าตรงนี้เป็นเรื่องทางการแพทย์ ถ้ายาขาดแพทย์ต้องรู้ก่อน และบอกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลทำการจัดซื้อจัดหา แต่ตอนนี้ทุกอย่างยังบริหารจัดการได้อยู่

เมื่อถามว่าภายในกลุ่มของหมอก็อาจยังไม่เข้าใจกัน นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่ใช่เกิดครั้งแรก แต่คนที่ทำงาน สั่งยา และอยู่ใกล้ชิดข้อมูลคือสำนักงานปลัดสาธารณสุข กรมควบคุมโรค องค์การเภสัชกรรม ส่วนกลุ่มอื่นที่ตั้งข้อสงสัย ก็ไม่ใช่หน้าที่ของปลัดประทรวงฯต้องไปชี้แจงชมรมแพทย์ชนบท เพราะถ้าแยกการทำงาน แต่ละคนก็คือลูกน้องของปลัดกระทรวง จะถามมาก็ได้ แต่ปลัดกระทรวงจะชี้แจงหรือไม่เป็นเรื่องของปลัด และที่จริงก็เป็นคนละหน้าที่กัน แพทย์มีหน้าที่รักษาคนไข้ให้ดี อย่าให้มีการเจ็บป่วยหนักและเสียชีวิต ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ก็จะไม่มีปัญหาอะไร ขออย่าทำความหวั่นไหวหรือหวาดวิตกให้เกิดกับประชาชน เพราะสถานการณ์อยู่ในการควบคุมได้ในระดับหนึ่ง และเราถือว่าเข้มกว่าประเทศอื่น เข้มกว่าประเทศที่เขาไม่กลัว เพราะต้องการให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดต่อประชาชน 

เมื่อถามว่าจากกรณีดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสน นายอนุทิน กล่าวว่า ให้เชื่อข้อมูลของกระทรวงสธ. ซึ่งเป็นข้อมูลที่ดีที่สุด น่าเชื่อถือที่สุด และเป็นจริง เพราะปลัดกระทรวงเป็นประธานศูนย์ปฏิบัติการสาธารณสุข,ประธานโควิดแห่งชาติด้านสาธารณสุข เข้าร่วมประชุมทุก 7 โมงเช้า ทราบข้อมูลทุกวัน ถ้าไม่เชื่อหัวหน้าแพทย์ของประเทศไทย แล้วไปกังวลในสิ่งที่ไม่ควรกังวล ย้ำว่าถ้ามีปัญหาจริงก็จะบอกว่าตอนนี้มีปัญหาแล้ว เหมือนกับที่เคยบอกให้ใส่หน้ากากอนสมัย ต้องล็อกดาวน์ หรือสถานการณ์ไม่ดี ยืนยันไม่มีปิดบังประชาชนอยู่แล้ว ขอให้เชื่อมั่นในกระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นสถาบันไม่ใช่เป็นตัวแทนของรัฐมนตรี ของปลัด หรือของแพทย์คนไหน เราต้องทำในสิ่งที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอยู่แล้ว