ประชุมผบ.เหล่าทัพ พร้อมจัดเตรียมกำลังรองรับภารกิจการต่อต้านการก่อการร้ายและการก่อเหตุร้ายภายในประเทศ ผนึกกำลังทุกเหล่าทัพ เพื่อเตรียมความพร้อมในภาวะปกติ

เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) จัดการประชุม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 3 ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคยิด-19  ของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) โดยมี พล.อ.เฉลิมพล  ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นประธาน พร้อมด้วย ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม

โดยกองบัญชาการกองทัพไทย ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ได้จัดเตรียมกำลังเพื่อรองรับภารกิจการต่อต้านการก่อการร้ายและการก่อเหตุร้ายภายในประเทศ โดยผนึกกำลังร่วมกับกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมตั้งแต่ในภาวะปกติ โดยมีการป้องกัน รับมือ และลดผลกระทบจากภัยคุกคามทุกรูปแบบ 

กองทัพบก ได้รายงานผลการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละอองภาคเหนือ การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของกองทัพบก และผลการปฏิบัติภารกิจของกองกำลังป้องกันชายแดนให้ที่ประชุมได้รับทราบ

กองทัพเรือ ได้นำเสนอแนวคิดในการเสริมสร้างขีดความสามารถของกองทัพเรือที่ว่า “สองฝั่งมหาสมุทรและสามพื้นที่ปฏิบัติการ” หรือ “Two Oceans and Three Areas (OOAAA/Double O Triple A) เพื่อให้สามารถใช้กำลังทางเรือได้พร้อมกันทั้งสองฝั่งทะเล และสามพื้นที่ปฏิบัติการทัพเรือภาคอย่างสมดุล

กองทัพอากาศ ได้นำเสนอแนวทางการเชื่อมโยงและช่วยเหลือประชาชน (Quality Civic Actions) ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายหลัก 6 ด้านของผู้บัญชาการทหารอากาศ โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ได้ระดมสรรพกำลังทั้งปวงเพื่อเตรียมพร้อมและตอบสนองภารกิจด้านบรรเทาสาธารณภัยทั้งในมิติของการป้องกัน การให้ความช่วยเหลือ การฟื้นฟู และการนำเทคโนโลยีทางทหารมาใช้ในการวางแผนป้องกันสาธารณภัยและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันเหตุการณ์

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงโครงการสร้างโรงงานผลิตกระสุนในศูนย์ฝึกอบรมตำรวจทั่วประเทศ จำนวน 12 แห่ง ในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 และขยายเพิ่มแห่งที่ 13 ในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนกระสุนปืนสำหรับการปฏิบัติงานและการฝึกอบรมหลักสูตรต่าง ๆ รวมทั้งเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณรายจ่ายแผ่นดินในการจัดซื้อกระสุนปืน และสนับสนุนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถพึ่งพาตนเองได้

ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวเน้นย้ำให้เหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำรงความต่อเนื่องในการสนับสนุนภารกิจจิตอาสาพระราชทานเพื่อสนองพระราโชบายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขเพื่อให้ราษฎรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมทั้งให้ดำรงความต่อเนื่องในการบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทย และสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 

 นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติและเตรียมพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค และให้เฝ้าระวังเหตุการณ์ไฟป่าในห้วงฤดูร้อน รวมถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 โดยบูรณาการร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่