ครม.ไฟเขียวร่างแผนปฏิบัติการด้านการควบคุมยาสูบแห่งชาติ ฉบับที่ 3 ขับเคลื่อน 6 ยุทธศาสตร์ วงเงิน 498 ล้านบาท
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ครม.เห็นชอบ ร่างแผนปฏิบัติการ ด้านการควบคุมยาสูบแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2565-2570 ที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแผนปฏิบัติการไปดำเนินการต่อไป โดยวัตถุประสงค์ของแผนปฏิบัติการฯ เพื่อลดความต้องการบริโภคยาสูบที่สูงของประชากรและคุ้มครองสุขภาพประชาชนจากอันตรายของควันบุหรี่ ให้ดำเนินการภายใต้ 6 ยุทธศาสตร์ วงเงิน 498.039 ล้านบาท ดังนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 1 สร้างความเข้มแข็งและยกระดับขีดความสามารถการควบคุมยาสูบของประเทศ วงเงิน 138.800 ล้านบาท ให้ผลักดันนโยบาย ปรับปรุงกฎหมาย ระบบการบังคับใช้กฎหมาย ตามกรอบอนุสัญญาควบคุมยาสูบ WHO FCTC เฝ้าระวัง วิจัย จัดการความรู้ กำกับ ติดตามประเมินผลการควบคุมยาสูบในทุกระดับ ยุทธศาสตร์ที่ 2 ป้องกันไม่ให้เกิดผู้เสพยาสูบรายใหม่ และเฝ้าระวังธุรกิจยาสูบ วงเงิน 99.186 ล้านบาท เช่น การให้ความรู้ โทษ พิษภัย ของยาสูบ กับเด็ก เยาวชนและนักสูบหน้าใหม่ เฝ้าระวังแาะบังคับใช้กฎหมาย การเข้าถึงผลิตภัณฑ์ยาสูบ การโฆษณา และรู้เท่าทันกลยุทธ์ของอุตสาหกรรมยาสูบ ยุทธศาสตร์ที่ 3 บำบัดผู้เสพให้เลิกใช้ยาสูบ วงเงิน 51.832 ล้านบาท เช่น สร้างเสริมพลังชุมชนและเครือข่ายที่เข้มแข็ง เพื่อบำบัดผู้เสพยาสูบ พัฒนาระบบบริการเลิกยาสูบ และสายด่วนเลิกบุหรี่
ยุทธศาสตร์ที่ 4 การควบคุม ตรวจสอบ เฝ้าระวังและเปิดเผยรายการส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ยาสูบ วงเงิน 12.5ล้านบาท เช่น ปรับปรุงกฎหมาย แนวทางการดำเนินโครงการให้สอดคล้องกับกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก สร้างกระบวนการบริหารจัดการข้อมูลส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบ เพื่อวัดสารที่อยู่ในยาสูบและสารที่ปล่อยออกมา ยุทธศาสตร์ที่ 5 ทำสิ่งแวดล้อมให้ปลอดควันบุหรี่ วงเงิน 165.721 ล้านบาท เช่น การออกประกาศกฎกระทรวง กฎ ระเบียบ และอื่นๆที่เกี่ยวข้องให้สถานที่สาธารณะและสถานที่ทำงานทุกแห่งปลอดควันบุหรี่
การปรับเปลี่ยน ทัศนคติ พฤติกรรมและค่านิยมของการเสพยาสูบ เพื่อให้การไม่สูบบุหรี่ในบ้าน สถานที่ทำงานและสถานที่สาธารณะเป็นบรรทัดฐานของสังคมไทย และยุทธศาสตร์ที่ 6 มาตรการภาษี การป้องกันและปราบปรามเพื่อควบคุมยาสูบ วงเงิน 30 ล้านบาท เช่น ปรับปรุงโครงสร้างภาษียาสูบ และระบบการบริหารการจัดเก็บภาษียาสูบ การป้องกัน ปราบปรามยาสูบที่ผิดกฎหมาย การดำเนินการสำหรับผู้กระทำความผิด และมาตรการลดผลกระทบต่อชาวไร่ยาสูบอันเนื่องมาจากมาตรการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ
นายธนกร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ครม.เห็นชอบหลักการโครงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะปลูกต้นยาสูบและผู้บ่มอิสระที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการรับซื้อใบยาสูบของการยาสูบแห่งประเทศไทย ฤดูการผลิต 62/63 ซึ่งปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบงบกลาง วงเงิน 159.95 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรตามมติ ครม. ทั้งนี้การดำเนินการควบคุมปัญหาการบริโภคยาสูบจะส่งผลกระทบเชิงบวก ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง อาทิ ทำให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ ที่เกิดจากโรคที่เกี่ยวข้องกับยาสูบลดลง และลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจในภาพรวม ประชาชนมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และประเทศไทยยังได้รับการยอมรับการเป็นผู้นำการควบคุมยาสูบในระดับประเทศและนานาชาติ