“ณัฏฐ์ชนน” ฉะกลับ “มาดามเดียร์” ไม่ใช่หน้าที่จี้ รมต.ภท.ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล ซัดทำวุ่นวาย ควรรู้สถานะตัวเอง สอนให้รู้จักคำว่าหน้าที่ เป็น “มาดาม” ต้องให้เกียรติตัวเอง-ประชาชน
ที่รัฐสภา นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา และรองโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ส.ส.ภูมิใจไทย ไม่ได้มาร่วมประชุมสภาฯเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา จนทำให้องค์ประชุมสภาฯล่ม ว่า เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวมีส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย บางส่วนติดโควิด - 19 และบางส่วนมีความเสี่ยงสูงต้องกักตัว แต่ขณะนี้ส.ส.พรรคภูมิใจไทยเหล่านั้นสามารถกลับเข้ามาร่วมประชุมสภาฯทำหน้าที่นิติบัญญัติให้สมบูรณ์แบบตามปกติแล้ว ขอให้ประชาชนมั่นใจ ว่าในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่ได้มีส่วนที่จะทำให้สภาฯล่ม
นายณัฏฐ์ชนน กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี หรือ มาดามเดียร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊กแนะรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยที่บอยคอตประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เนื่องจากประเด็นการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่าควรพิจารณาตนเองควรร่วมรัฐบาลหรือไม่ว่า คำว่ามาดามหมายถึงผู้หญิงหรือคุณนายหญิง ในประเทศไทยเราเรียกผู้หญิงที่ให้เกียรติหลายคน แต่ในวงการการเมืองจะน้อยมากที่จะเรียกว่ามาดาม ฉะนั้น คนที่ประชาชนให้เกียรติเรียกว่ามาดามเราก็ต้องให้เกียรติตนเอง และตำแหน่งด้วย รวมถึงต้องรู้จักตนเองด้วย วันนี้มีข่าวว่ามาดามเดียร์จี้รัฐมนตรีที่บอยคอตการประชุมครม.
ในฐานะมาดามเดียร์เป็นส.ส. ตนขอเตือนในฐานะที่เป็นส.ส.เหมือนกัน และในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล และกัลยาณมิตร โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร ไม่ใช่เรื่องของส.ส. ดังนั้น เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร ครม. นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หากเมื่อไหร่ที่เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯเมื่อนั้นมาดามเดียร์ในฐานะส.ส.สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ และต้องรู้จักสถานะตนเองด้วยว่าเวทีไหนเป็นเวทีของตนเอง ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองก็จะวุ่นวาย
“วันนี้ผมออกมาเตือนในฐานะที่เราเป็นเพื่อนกัน หากส.ส.ทั้ง 500 คนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายบริหาร ผมออกไปวิพากษ์วิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคพลังประชารัฐ บ้านเมืองก็วุ่นวาย เราต้องรู้จักตนเอง ดังนั้นหน้าที่ใครหน้าที่มัน เราต้องทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติของตนเอง หน้าที่เราคืออกกฎหมายและเตือนฝ่ายบริหาร แต่การเข้าร่วมหรือจะถอนตัวเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเป็นหน้าที่ของหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย และส.ส.พรรค ไม่ใช่หน้าที่ของมาดามเดียร์ ขอให้ตั้งสติทำหน้าที่ของตนเองให้ดีแยกให้ออก” นายณัฏฐ์ชนน กล่าว
เเมื่อถามว่า ทางพรรคได้มีการหารือว่าจะคุยเรื่องนี้กับนายกฯ อย่างไร นายณัฏฐ์ชนน กล่าวว่า เรื่องนี้พรรคภูมิใจไทย โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ได้พูดคุยในครม.แล้วหลายรอบ และพวกตนในฐานะส.ส.ก็ทราบข่าวจากสื่อมวลชน ว่าประเด็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวมีการยื่นเอกสารให้ครม.ในช่วงเช้าวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเข้าครม.วานนี้ (8 ก.พ.) และหลังจากที่ทราบข่าวก็ไม่ได้เข้าร่วมประชุมครม.
ฉะนั้นในประเด็นนี้พวกตนในฐานะส.ส.ไม่ทราบรายละเอียด และเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีของพรรคต้องไปคุยกับนายกฯ ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองไม่ว่าจะเป็นฝ่ายนิติบัญญัติหรือฝ่ายบริหาร ตนขอฝากไปยังครม.ทั้ง 30 คน ว่าประเด็นไหนที่เป็นเผือกร้อน ในขณะนี้ท่านต้องดูกฎหมายว่าการที่จะนำเข้าสู่การครม. ก็จะเป็นปัญหาอุปสรรคให้กับนายกฯ ก็อยากให้รัฐมนตรีแต่พรรคช่วยกันพิจารณาด้วย
เมื่อถามว่า หากปัญหานี้ยังอยู่จะเป็นปัญหาต่อการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายณัฏฐ์ชนน กล่าวว่า ไม่ใช่ปัญหา ตนคิดว่าน่าจะพูดคุยกันได้ ในมุมมองของนายศักดิ์สยาม และรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยมองประโยชน์ของประชาชน
เมื่อถามต่อว่า หากในอนาคตมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่ครม.อีก เป็นไปได้หรือไม่ที่ 7 รัฐมนตรีของพรรคจะบอยคอตอีกหรือไม่ นายณัฏฐ์ชนน กล่าวว่า ตนคิดว่าน่าจะต้องพูดคุยกันเมื่อถึงเวลานั้น ซึ่งการประชุมครม.หากพิจารณาด้วยความเกรงใจก็เหมือนกับการมัดมือชก หากผ่านไปด้วยความเกรงใจหรือสถานการณ์บีบก็จะลำบากในอนาคต
เมื่อถามว่า มีการมองว่ารัฐมนตรีควรเข้าไปเป็นปากเป็นเสียง จะดีกว่าการบอยคอตไม่เข้าร่วมประชุม นายณัฏฐ์ชนน กล่าวว่า อันนี้คือหลักการ ทุกคนคิดเช่นนั้นหมด แต่ตนคิดว่าการถอยออกมาตั้งหลักน่าจะดีกว่า แต่หน้างานการไปเป็นปากเป็นเสียงจะมีให้เลือกแค่เอาหรือไม่เอา จริงๆแล้วการไปเป็นปากเป็นเสียงช่วยอะไรไม่ได้ เพราะสุดท้ายแล้วมติครม.ก็จะมีแค่เอาหรือไม่เอา
เมื่อถามว่า กลัวว่าคะแนนความนิยมของรัฐมนตรีพรรคจะตกหรือไม่ นายณัฏฐ์ชนน กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่เลือกตั้ง วันนี้เราอย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องความนิยม เรามาพูดเรื่องเนื้อหาการทำงาน หากเราทำงานไม่ทันถือว่าผิดโจทย์ตั้งแต่แรก ถ้าเราทำงานแล้วได้ผลสัมฤทธิ์ เรื่องคะแนนนิยมค่อยไปพูดทีหลัง เพราะการเลือกตั้งยังอีกนาน