“บิ๊กตู่” ถกครม.ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เงียบเหงา ด้าน รมต.ประชาธิปัตย์ ร่วมประชุมออนไลน์จากบ้านพักด้วยพิษโอมิครอน เผย "บิ๊กป้อม” ไม่สบายใจ ลูกพรรคแสดงความเห็นส่วนตัว ทำเสียชื่อพรรค พร้ออม จับตาแก้ปัญหาราคาสินค้าพุ่ง

ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ อีกครั้ง หลังโควิด-19 โดยเฉพาะเชื้อโอมิครอนแพร่ระบาดหนักทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย โดยมีรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากกระทรวงที่รับผิดชอบ ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามมาตรการ Work from home ยกเว้นในส่วนของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ และนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ที่วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากบ้านพัก เนื่องจากอยู่ระหว่างการกักตัว ภายหลังเป็นกลุ่มเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดกับ นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่เข้ารับการกักตัวเช่นเดียวกัน

ในส่วนของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ( พปชร.)ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอลเฟอเรนซ์จากมูลนิธิป่ารอยต่อ โดยมีรายงานข่าวจากคนใกล้ชิด เปิดเผยว่า  พล.อ.ประวิตร แสดงความรู้สึกไม่สบายใจ กรณีลูกพรรค พปชร.แสดงความเห็นส่วนตัว โดยการโพสต์ในโซเชียลไม่เหมาะสม หรือการแสดงความคิดเห็นอื่นๆทำให้พรรคเสียหายชื่อเสียง ทั้งนี้ ได้ตักเตือนลูกพรรคคนดังกล่าวและสั่งให้ลบโพสต์ออกไปแล้ว อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร ระบุว่าหากเจอกับนายจุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฏ์  รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็พร้อมจะแสดงความยินดี ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั้งสองเขต ที่ จ.สงขลา และ จ.ชุมพร เพราะถือว่า การแข่งขันในสนามได้ตั้งจบไปแล้ว จากนี้ไปก็พร้อมร่วมมือเดินหน้าทำงาน ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลไทย

สำหรับวาระการประชุม ครม.ที่น่าสนใจวันนี้ คาดว่า ที่ประชุมจะมีการรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน ที่มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง การรายงานสถานการณ์เตียง ปริมาณยา และขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วย นอกจากนี้ยังอาจมีการรายงานการฉีดวัคซีนโดยเฉพาะการบูธเตอร์เข็ม 3 ในกลุ่ม 608 และเข็ม 4 ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ นอกจากนี้ประเด็นสำคัญที่ถือได้ว่าเป็นประเด็นใหญ่และโจทย์สำคัญของรัฐบาล คือการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าพุ่งสูง อย่างเนื้อหมู ไข่ไก่ ซึ่งในช่วงปลายเดือนนี้จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งปกติแล้วราคาสินค้าโดยเฉพาะของเซ่นไหว้จะดีดตัวสูงขึ้น จึงต้องจับตาการออกนโยบายออกแก้ไขสถานการณ์ของรัฐบาล