โควิด-19 ทำเด็กไทยเสียโอกาสหลุดจากระบบศึกษา “บิ๊กตู่” ลั่นเดินหน้าโครงการ “พาน้องกลับมาเรียน” ย้ำทุกกระทรวง ใกล้จัดทำงบประมาณ ขอจัดโครงการสำคัญให้ดี อย่าเอาแต่โครงการใหญ่ วอนเข้าใจงบมีจำกัด นายกฯต้องคุมตามกรอบวินัยการเงินการคลัง

ที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม  เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมโอกาส ความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางการศึกษา “พาน้องกลับมาเรียน” และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โดยมี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การปฏิรูปการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องพัฒนาคนและความรู้ให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่ต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งกิจกรรมนี้มีความสำคัญและสอดคล้องสถานการณ์โควิด19 ในปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดเป็นระยะ ตนรู้สึกยินดีที่ทุกส่วนราชการให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาสให้กับเด็กและเยาวชนของไทยในโอกาสที่ต้องประสบปัญหาจากสถานการณ์โรคระบาด ที่เป็นการดำเนินงานตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องในวิกฤตต่างๆ

ซึ่งรวมถึงเรื่องการศึกษาจากผลกระทบโควิด ตนดีใจที่เห็นความร่วมมือของทุกหน่วยงานที่พยายามทำเพื่อให้โอกาสเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษา และเด็กที่ไม่มีโอกาสเข้ารับการศึกษา ให้ทุกคนเข้ารับการศึกษาที่ดี มีความเสมอภาคและเท่าเทียม โครงการพาน้องกลับมาเรียนถือเป็นระโยชน์อย่างยิ่งและเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจุบันที่ทราบดีว่ามีเด็กที่ตกหล่นและหลุดจากการศึกษากว่าแสนคน รัฐบาลและทุกคนต้องช่วยกันทุกวิถีทางเพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษา

“ หลายคนออกจากระบบการศึกษาคงไม่ใช่แค่เพราะโควิด อาจด้วยเหตุความจำเป็นของบ้าน ของผู้ปกครอง หรือด้วยใจของเขาเอง ด้วยเพื่อน หรืออะไรต่างๆ เราต้องหาข้อมูลและแก้ปัญหาไปทีละจุด ซึ่งขณะนี้มีการเรียนหลายวิธีด้วยกันทั้งออนไลน์ ออนไซต์ ความพร้อมเป็นสิ่งสำคัญ จึงอยากฝากให้ดูแลครอบครัว ผู้ปกครองของเขาด้วยว่ามีความพร้อมหรือไม่ หากเอาเด็กกลับมาตอนนี้และต่อไปจะหลุดอีกหรือเปล่า ตรงนี้จะเป็นสิ่งยืนยันว่าที่เราทำจะสำเร็จหรือไม่ เพราะผู้ปกครองบางคนอาจมีค่าใช้จ่ายไม่เพียงพอ ซึ่งหน่วยงานต้องเข้าไปดู จึงขอฝากข้อสังเกตไว้ด้วยหากเด็กคนเดิมๆหายซ้ำไป มันต้องมีปัญหาที่ลึกซึ่งกว่านั้น ขอฝากหน่วยงานเกี่ยวข้องประสานบูรณาการกันให้ดี”นานกรัฐมนตรีกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาคงใช้เงินอย่างเดียวแก้ปัญหาไม่ได้ทั้งหมด และเราก็ไม่มีเงินที่เพียงพอขนาดนั้น ฉะนั้นต้องหาวิธีการที่เหมาะสม ต้องช่วยกันคิด เราเป็นผู้นำทางการศึกษาที่เป็นงานฟังชั่น แต่ก็มีงานบูรณาการที่ท่านช่วยดูแลได้อีก จึงขอให้ทุกหน่วยงานใช้งบประมาณให้คุ้มค่าในการส่งเสริมภารกิจที่มีความสำคัญกับประเทศชาติ ฉะนั้นความร่วมมือวันนี้ที่ทุกคนได้ตกลงใจลงนามความร่วมมือกันแล้วตนถือเป็นของขวัญที่สำคัญที่รัฐบาลจะทำเพื่อคนไทยและประเทศไทยต่อไป และขอฝากผู้ที่เกี่ยวข้องทราบว่าเรื่องการให้การศึกษากับคนไทยเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมาก เราต้องให้ความร่วมมืออย่างจริงจัง หาวิธีการที่เหมาะสม ทำอย่างไรให้เกิดผลสัมฤทธิ์และวัดผลได้ ทั้งนี้การนำเด็กเข้ารับการศึกษา ซึ่งการจะจัดหาโรงเรียนที่ดีมีคุณภาพ มีกองทุนต่างๆ แต่เมื่อกลับมาเรียนต้องเรียนโรงเรียนที่ไม่มีคุณภาพมันก็ไม่ได้กลับขึ้นมา จึงต้องพิจารณาตรงนี้อีกข้อให้ตนด้วย 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่ตนเป็นกังวลคือเราต้องสอนให้เด็กรู้จักมีความคิดที่ดีในหลายๆเรื่อง ต้องเรียนรู้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์และนำมาคิด เพื่อเตรียมตัวไปสู่อนาคตว่าจะเรียนอะไร และนำไปสู่การพัฒนาชุมชนหมู่บ้านของเขา ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ จึงต้องพูดกับเด็กให้เข้าใจว่ามันไม่ได้ง่ายนักการที่จะโตขึ้นมา มีความสำเร็จ มีงานทำ มีรถขับ มีบ้านอยู่ ไม่อย่างนั้นก็จะคิดง่ายและมีปัญหา ไม่อยากให้ทุกคนเรียนมาแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์ เรียนมาแล้วยังไม่ทันจบก็สร้างหนี้สิน จบมาก็มีหนี้สินติดตัว ซึ่งทำให้ทุกอย่างพัฒนาไม่ได้ ก็ขอให้เปรียบเทียบกับต่างประเทศด้วยว่าเขาพัฒนามาอย่างไร ขอให้เร่งสร้างความคิด สร้างแรงบันดาลใจให้แก่เขาไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ ทุกอย่างยากในโลกของการแข่งขัน และทำอย่างไรจะไม่เป็นภาระของครอบครัวต่อไปในอนาคต นั่นคือเป้าหมายของการเรียนด้วย ทั้งนี้ถ้าลูกรักพ่อแม่ขอให้ช่วยกันเรียนหนังสือ ช่วยกันอยู่ในระเบียบ ในระบบ มีวินัย ไม่สร้างความเดือดร้อนให้พ่อแม่ ไม่เสื่อมเสียชื่อเสียงของครอบครัว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่มีต่อนักเรียนในช่วงโควิด เดิมที่มอบเงินให้คนละ 2,000 บาท ตนเห็นในข่าวครูบางโรงเรียนมีแนวคิดว่ามีใครจะมาสมทบเงินตรงนี้ ก็มีการมาสมทบคนละครึ่งและนำไปจัดซื้อโทรศัพท์ที่เรียนหนังสือได้ ซึ่งหลายโรงเรียนทำแล้วได้ประโยชน์ เกิดการช่วยเหลือตัวเองและความรับผิดชอบไปด้วย ตนย้ำอีกทีการสร้างโอกาสทางการศึกษาต้องเน้นทั้งโอกาสและคุณภาพของการศึกษา รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ปกครองด้วย วันนี้ตนขอขอบคุณในการลงนามที่เป็นการใช้พลังร่วมกันในการบูรณาการ ทั้งแผนคน แผนเงิน แผนงานโครงการ มาร่วมกันทำกิจกรรมที่เกิดผลสัมฤทธิ์โดยรวม ตนขอฝากผู้เกี่ยวข้องว่าการให้โอกาสทางการศึกษาถือเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง เมื่อร่วมมือกันเต็มที่ความสำเร็จจะเกิดกับพวกเรา ประเทศชาติ และคนในชาติต่อไป ตนรู้ว่าเป็นงานที่หนักต้องใช้พลังอย่างมากในงานบูรณาการที่เพิ่มขึ้นมา นี่คือปัญหา อุปสรรคมีไว้ฝ่าฟัน ปัญหามีไว้ให้แก้ไข อย่าท้อแท้ ถ้าโลกไม่มีปัญหา โลกไม่มีอุปสรรค โลกก็จะไม่เจริญ ทุกคนก็นั่งเฉยๆใช้ชีวิตไปสบายๆ แต่วันนี้โลกมีทั้งอุปสรรค ปัญหา และบทเรียนต่างๆมากมาย โดยเฉพาะประเทศไทย 

“เพราะฉะนั้นอะไรที่ไม่ดี อะไรที่เป็นประวัติศาสตร์ที่ดีเราก็เรียนรู้ อะไรที่ไม่ดีเราก็อย่าไปทำอีกในทุกๆเรื่อง อย่าบอกว่าประวัติศาสตร์ไม่มีความสำคัญ ทุกอย่างมีประวัติศาสตร์มาทั้งหมดจนถึงวันนี้ นี่คือประวัติศาสตร์โลก ความขัดแย้ง สงครามมีที่ไหนบ้างเกิดจากอะไร ทำไมเขาถึงไม่ค่อยทะเลาะกัน เพราะเขาเห็นแล้วว่าประวัติศาสตร์ทำให้ประเทศเสียหาย ซึ่งทุกอย่างเกิดขึ้นจากความไม่สามัคคี เกิดจากความขัดแย้งระดับต่ำจนระดับสูง สิ่งต่างๆเหล่านี้ครูต้องสอนใหม่ทั้งหมด”นายกรัฐมนตรีกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนให้ความสำคัญกับการปฏิรูปการศึกษา ต้องไปดูว่าปฏิรูปการศึกษาอย่างไรที่ไม่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ถ้าพูดถึงจะทำอะไรสักอย่างต้องมีแผนงานโครงการใหม่ๆ มีงบประมาณเยอะๆ ตนถามว่าเราจะเอามาจากที่ไหนถ้ายังสร้างรายได้ตรงนั้นไม่ได้ ทุกอย่างแปรผันไปตามงบประมาณที่เรามีอยู่ ซึ่งวันนี้อาจจะมีจำนวนจำกัด วันหน้าอาจจะมีเพิ่มขึ้นจากสิ่งที่เราลงทุนไปหลายปีที่ผ่านมาจะเป็นรายได้กลับมา นี่คือสิ่งที่รัฐบาลนี้ทำ ไม่ใช่จะพูดเพียงอย่างอย่างเดียวว่าจะใช้เงินอย่างไร ต้องให้ความสำคัญกับการหาเงินเพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เพราะฉะนั้นการที่จะให้อะไรต้องระวังอย่างที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เราต้องระมัดระวังเรื่องค่าใช้จ่าย การใช้เงินต่างๆ

นายกฯต้องคุมตรงนี้ด้วยในเรื่องการสร้างความเข้มแข็ง และควบคุมงบประมาณทั้งหมดให้อยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลัง ขอมาได้ แต่จะได้มากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับลำดับความสำคัญ ผลประโยชน์ที่จะได้รับ โครงการใดที่คุ้มค่าก็ได้ทำต่อ โครงการใดที่ดูแล้วไม่คุ้มค่าไม่มีผลสัมฤทธิ์ก็จะต้องถูกตัดออกเปลี่ยนเป็นโครงการอื่น ช่วงนี้ก็ใกล้ปีจัดทำงบประมาณแล้วขอให้จัดให้ดี อะไรสำคัญมากสำคัญน้อย เพราะต้องถูกพิจารณาในคณะกรรมมาธิการของทุกกระทรวง ไม่มีเหตุผลเพียงพอเขาก็ตัดออกและเราก็เสียดายที่ได้มาอาจสำคัญน้อยกว่าที่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นขอให้จัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนให้ดี ไม่ใช่เอาสำคัญไปไว้ท้ายๆ ไม่ใช่เอาแต่โครงการใหญ่ขึ้นมา บางอย่างโครงการเล็กๆมีความจำเป็นและทำเสร็จในปีเดียว อันนี้เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง ขอให้คุยกับสำนักงบประมาณ และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ให้ดี เพราะถ้าให้ทั้งหมดไม่มีเงินให้ เราตั้งงบประมาณรายจ่ายให้ 3.1 ล้านล้านบาท จึงขอให้เข้าใจด้วย
 
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวช่วงท้ายด้วยว่า ขอบคุณทุกคนหวังว่าจะช่วยกันทำงานให้ประเทศชาติสำเร็จ เชื่อมั่นความทุ่มเทจากความพยายามของทุกท่านในโครงการดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมได้ ขอเป็นกำลังใจให้สำเร็จลุล่วง ตนจะรอรับรายงานอยู่ในเรื่องเหล่านี้ 

สำหรับสถิติจำนวนนักเรียนที่หลุดออกจากระบบการศึกษาปี 2564 กระทรวงศึกษาธิการ รายงานว่า มีจำนวนมากถึง 238,707 คน ซึ่งหลังจากดำเนินการเชิงรุกตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา สามารถตามนักเรียนกลับมาเรียนได้ 127,952 คนยังมีเด็กที่หลุดจากระบบจำนวน 110,755 คน