"แสนยากรณ์" แนะ กกต. ควรดำเนินคดีอดีตหัวหน้า พปชร. รับรอง "สิระ" ทั้งที่ขาดคุณสมบัติ ส่วนจะเจตนาหรือไม่ ให้ศาลตัดสิน หากมีความผิด คงกระทบงานการเมืองในอนาคต ยกเป็นบทเรียน สะท้อนคุณภาพพรรคการเมืองคัดกรองผู้สมัคร 

นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายสิระ เจนจาคะ สิ้นสุดสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. ว่า หากเป็นกรณีรู้อยู่แล้วว่าไม่มีคุณสมบัติ แล้วยังส่งสมัครรับเลือกตั้ง คงไม่ใช่แค่ความรับผิดชอบของนายสิระคนเดียว แต่เป็นความรับผิดชอบของหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐในขณะนั้นด้วยหรือไม่ ซึ่งมีอดีต กกต. ให้ความเห็นแล้วว่า เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 120 หากผิดจริง มีผลให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งถึง 5 ปี 

"เป็นเรื่องที่ กกต. ต้องให้ความกระจ่าง ว่าจะมีการดำเนินคดีกับอดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ เพราะหาก กกต.ไม่ดำเนินการ กกต.เองจะเสี่ยงทำผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ได้ ส่วนจะรู้เห็นหรือมีเจตนา รับรองตัวผู้สมัครที่ไม่มีคุณสมบัติหรือไม่ เป็นเรื่องที่ศาลจะพิจารณา หากผิดจริง ก็น่าเสียดาย เพราะคงกระทบต่องานการเมืองที่อดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กำลังจะทำ" นายแสนยากรณ์ กล่าว 

โฆษกพรรคกล้า กล่าวว่า อยากให้ กกต. ดำเนินคดี เพื่อสร้างบรรทัดฐานว่า เวลาพรรคการเมืองมีมติจะส่งใครเป็นผู้สมัคร ควรคัดกรองให้ถี่ถ้วนก่อน การอ้างว่าไม่รู้หรือไม่มีเจตนา ไม่ใช่คำตอบที่สังคมคาดหวัง ซึ่งเรื่องนี้เป็นบทสะท้อนมาตรฐานและคุณภาพของพรรคการเมืองในการคัดกรองผู้สมัครด้วย