"นายกฯ" เร่งแก้ปม วาด้า -ธงชาติไทย ในสนามกีฬานานาชาติ จ่อเข้า ครม.28ธค.นี้-เตรียมอุทธรณ์ศาลกีฬาโลก พร้อมชม หน่วยงานรัฐ มอบของขวัญปีใหม่ คนไทย กระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือประชาชน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เร่งผลักดันแก้ปัญหากรณีองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ “WADA" ที่สั่งคาดโทษแบนจนไม่สามารถใช้ธงชาติไทยในเวทีนานาชาติ โดยให้เร่งบรรจุร่างพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้าม ทางการกีฬา พ.ศ. 2555 รวม  24 มาตรา  ที่เกี่ยวกับมาตรฐานของ WADA  ให้นำส่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อเร่งบรรจุเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 28 ธันวาคม นี้ เมื่อ ครม. เห็นชอบแล้วคาดว่ากฎหมายจะแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2565 

นายธนกร กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลดำเนินทุกขั้นตอนของการแก้ไขกฎหมายในประเทศเรียบร้อย จะประสานกับ WADA เพื่อขอให้ปลดโทษแบนเร็วกว่ากำหนด สำหรับประเด็นที่ไม่สามารถใช้ธงชาติไทยในเวทีนานาชาติได้นั้น จะทำเรื่องอุทธรณ์ต่ออนุญาโตตุลาการศาลกีฬาโลกอีกครั้ง "นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ดำเนินการแก้ไขมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมจะเร่งแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และขวัญและกำลังใจของนักกีฬาไทยและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายด้วย" นายธนกร กล่าว 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชื่นชมการทำงานของทุกหน่วยงานที่ร่วมกันมอบของขวัญปีใหม่ให้คนไทย ส่งความสุขในช่วงท้ายปี 2564 นี้ และทุกหน่วยงานได้รับลูกไปดำเนินการเพื่อกำหนดเป็นมาตรการต่างๆ ส่งมอบความสุข มอบของขวัญวันปีใหม่ให้คนไทยทุกคน 

เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด – 19 เช่น มาตรการช้อปดีมีคืน ปี 2565 ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการเท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการสำหรับการซื้อสินค้าหรือการรับบริการในราชอาณาจักรให้กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าซื้อหนังสือและค่าบริการหนังสือที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และค่าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท ระยะเวลา ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ.2565 โดยมีข้อยกเว้น ไม่รวมถึงค่าสินค้าและบริการบางชนิด เช่น ค่าสุรา เบียร์ และไวน์ ค่ายาสูบ ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ ค่าบริการจัดนำเที่ยว ค่าที่พักในโรงแรม ค่าสาธารณูปโภค

ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย เป็นต้น ซึ่งเป็นไปตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร

นายธนกร กล่าวว่า มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2 เปอร์เซ็นต์ ลงเหลือ 0.0 เปอร์เซ็นต์ และลดค่าธรรมเนียมการจำนองจาก 1 เปอร์เซ็นต์ ลงเหลือ 0.01 เปอร์เซ็นต์ (เฉพาะการโอนและจดจำนองในคราวเดียวกัน) สำหรับที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ เฉพาะที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมบ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์ และห้องชุด ตั้งแต่วันถัดจากวันที่เผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทยในราชกิจจานุเบกษา จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2565 มาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่น ลดอัตราภาษีตามปริมาณของน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่นที่ใช้บินในประเทศเหลือ 0.20 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 30 มิ.ย. 2565 ส่วนโครงการคนละครึ่งเฟส 4 กำหนดให้เว้นช่วงออกไป 3 เดือน เนื่องจากต้องปรับปรุงระบบ ปรับแพลตฟอร์มให้ใช้ง่ายมากขึ้น มีการอัพเดทร้านค้าใหม่ โดยจะเริ่มโครงการในวันที่ 1 มี.ค. – 30 เม.ย. 2565 
การสร้างอาชีพใหม่หลังโควิด ส่งเสริมอาชีพให้แก่กลุ่มเป้าหมาย เช่น ครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว คนพิการ คนด้อยโอกาส ตลอดจนกลุ่มเปราะบางต่างๆ ให้มีอาชีพ จำนวน 34,362 คน เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถพึ่งพาตัวเอง และสามารถดูแลครอบครัวได้ต่อไป

นายธนกร กล่าวว่า นอกจากนั้นยังจัดบริการสุขภาพจิต การสนับสนุนทุนการศึกษา การจัดหาผู้ดูแลเด็กและการสนับสนุนครอบครัวด้านสวัสดิการสังคม ตลอดจนเสริมทักษะให้แก่เครือญาติหรือผู้ใกล้ชิด ในการดูแลเด็กที่สูญเสียคนในครอบครัวการเพิ่มช่องทางรับแจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย แจ้งปัญหาสังคม และการขอรับบริการของกระทรวง พม. จากเดิมมีเพียงสายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ล่าสุดมีเว็บไซต์ ไลน์ OA (@Hotline1300) ซึ่งรวบรวมสิทธิ สวัสดิการ และบริการของภาครัฐ เพื่อให้ผู้ประสบปัญหาทางสังคมเข้าถึงบริการของกระทรวง พม. และได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอหลักเกณฑ์การลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ในวันที่ 28 ธ.ค.นี้  ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีคำนึงถึง และห่วงใยประชาชนทุกคน โดยที่ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาเฉลิมฉลองที่ประชาชนทุกคนจะก้าวข้ามผ่านปีร่วมกัน รัฐบาลอยากจะดูแลประชาชนทุกกลุ่ม ให้มีความสุข แบ่งเบาภาระ ให้มีรอยยิ้มในช่วงเวลาเฉลิมฉลองนี้ร่วมกัน