เจาะโลกอนาคต รถเหาะได้!! “AIR CAR” พร้อมทะยานสู่ท้องฟ้า ปี 2024!! | Knowledge Times EP.40

???? Knowledge Times BizView
???? เจาะโลกอนาคต รถเหาะได้!! “AIR CAR” พร้อมทะยานสู่ท้องฟ้า ปี 2024!! 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็เป็นช่วงเวลาที่วงการ ‘รถบินได้’ คึกคักมากเป็นพิเศษ เริ่มต้นจากการที่บริษัททางการเงินและการลงทุนระดับโลกอย่าง Morgan Stanley ออกมาบอกว่าอุตสาหกรรม ‘รถบินได้’ จะทำรายได้มหาศาลและมีเงินสะพัดกว่า 5 หมื่นล้านบาทในปี 2040 หรืออีกแค่ 20 ปีข้างหน้า! ซึ่งจุดชนวนให้บริษัทต่าง ๆ เข้ามาแข่งขันและพัฒนานวัตกรรมนี้ เพื่อเป็นคนแรกในตลาดที่มีโอกาสเติบโตสูง ขณะที่บนท้องฟ้ายังเปิดกว้างและเป็นตลาดใหม่ที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ!  

อย่างเช่น เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัท Klein Vision ในประเทศสโลวาเกีย ได้ทดลองรถต้นแบบ Air car ที่ใช้เวลาพัฒนายาวนานตั้งแต่ยุค 1980 โดยใช้เวลาทดลองบินบนฟ้าราว 35 นาที รวมระยะทางกว่า 120 กิโลเมตร 

สำหรับรถต้นแบบ Air car ของ Klein Vision เป็นรถที่มีรูปทรงสปอร์ต สามารถวิ่งบนถนน พับปีกเข้าหาลำตัวได้ ใช้เวลาแปลงร่างจากรถยนต์ธรรมดาให้มีปีกออกมา 2 นาที 15 วินาที 

และเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านรถยนต์อย่าง Honda ก็ประกาศแผนพัฒนาและผลิต ‘Honda Jet’ ตัวต้นแบบในอีก 2 ปีข้างหน้า และกำหนดที่จะเข้าสู่วงจรการผลิตแบบเต็มรูปแบบในปี 2030 ซึ่งจะสามารถบินได้ไกลกว่าที่โลกเคยผลิตออกมากว่า 4 เท่า หรือสามารถบินได้ระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร

ดูเหมือนว่าปี 2030 จะเป็นหมุดหมายสำคัญของบริษัทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ขณะที่มหานครลอสแอนเจลิสได้กลายเป็นเมืองอันดับต้น ๆ ของโลกที่จะมีบริการแท็กซี่ Urban Air Mobility หรือ ‘บริการแท็กซี่ทางอากาศส่วนบุคคล’ ซึ่งมีแผนการที่จะเกิดขึ้นในปี 2030 เช่นกัน ภายใต้กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่อย่างฮุนได ซึ่งนอกจากจะเอาจินตนาการมาจากรถบินได้ ที่ถูกปรับให้เป็น Vertical Takeoff and Landing มีลักษณะเป็นเครื่องบินแท็กซี่ขนาดเล็กแล้ว ยังออกแบบ Hub สำหรับการจอดรวมไปถึงรถ Shuttle bus รับส่งผู้คนเรียกได้ว่าครบวงจร ซึ่งตอนนี้อยู่ภายใต้การพูดคุยและทำงานร่วมกันกับสภาเมืองลอสแอนเจลิส 

และเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้เอง ‘เอแอลไอ เทคโนโลยี’ (A.L.I Technologies) บริษัทสตาร์ทอัพที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับโดรน ได้เปิดตัวโฮเวอร์ไบค์ มอเตอร์ไซค์บินได้รุ่นเอ็กซ์ทูริสโม ลิมิเต็ด อิดิชั่น ในราคาคันละ 77.7 ล้านเยน (หรือราว 22.6 ล้านบาท) ที่ติดตั้งเครื่องยนต์แบบดั้งเดิมและมอเตอร์พลังงานแบตเตอรี่ 4 ตัว ซึ่งทำให้บินได้นานถึง 40 นาทีที่ความเร็วสูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

‘ไดสุเกะ คาตาโนะ’ ซีอีโอของ เอแอลไอ เทคโนโลยี เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ‘โฮเวอร์ไบค์’ มีลักษณะเหมือนรถมอเตอร์ไซค์ที่ตั้งอยู่ด้านบนของใบพัดและมีฐานจอดอยู่ด้านล่าง บริษัทของเขา ซึ่งมีบริษัทมิตซูบิชิ อิเล็กทริคและเคียวเซรา สองบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นเป็นผู้สนับสนุน ได้สาธิตการนำโฮเวอร์ไบค์ขึ้นบินเป็นช่วงระยะทางสั้น ๆ เพียงไม่กี่เมตรที่สนามแข่งรถแห่งหนึ่งใกล้ภูเขาฟูจิ และยังระบุว่า ในช่วงแรก ๆ โฮเวอร์ไบค์จะถูกจำกัดการใช้งานในสถานที่บางแห่งเท่านั้น และจะไม่ได้รับอนุญาตให้นำไปบินเหนือท้องถนนทั่วไปในญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี คาดว่าโฮเวอร์ไบค์อาจเป็นประโยชน์ต่อทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่จำเป็นต้องเดินทางไปยังพื้นที่ที่เข้าถึงลำบาก

ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พ.ย. นี้เอง แบรนด์รถ EV สัญชาติจีน ก็ได้รุกตลาดยุโรป เปิดตัวนวัตกรรมสุดว้าวอย่างรถยนต์ไฟฟ้าบินได้ โดย HT Aero บริษัทผู้ให้บริการขนส่งทางอากาศในเขตเมือง หรือ (UAM : Urban air mobility) บริษัทในเครือ XPENG (เสี่ยวเผิง) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน ได้นำโมเดลรถยนต์ไฟฟ้าบินได้ไปนำเสนอในงาน EUROPEAN ROTOR 2021 ที่จัดขึ้นในเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นที่แรกที่เปิดตัวรถยนต์ดังกล่าว

โดย HT Aero ได้เริ่มพัฒนา "X2" ยานยนต์ 2 ที่นั่งที่สามารถเดินทางทั้งบนบกและอากาศตั้งแต่ปี 2013 ผ่านการทดสอบมาแล้วมากกว่า 15,000 ครั้ง ตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้มีการอัปเกรดคุณสมบัติในด้านต่าง ๆ รวมถึงระบบควบคุมการบิน ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ และระบบร่มชูชีพ ภายนอกมีลักษณะคล้ายรถซูเปอร์คาร์ แต่มีการติดตั้งใบพัดขนาดใหญ่ข้างตัวรถ ซึ่งสามารถพับเก็บได้โดยอัตโนมัติ และมีการออกแบบให้มีน้ำหนักเบา บริษัทเผยว่ายานยนต์ดังกล่าวมีน้ำหนักอยู่ที่ 560 กิโลกรัม ยาว 4.97 เมตร กว้าง 4.78 เมตร สูง 1.36 เมตร สามารถทำความเร็วสูงสุด 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บินได้ในระดับความสูงไม่เกิน 1,000 เมตร

โดยขณะนี้ X2 ยังคงอยู่ระหว่างการพัฒนาและยังไม่วางจำหน่าย แต่คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2024 นับว่าเป็นความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของบริษัท XPENG ในยุโรป 

มาถึงวันนี้ รถบินได้ คงไม่ใช่นวัตกรรมที่ไกลเกินเอื้อมของมนุษย์อีกต่อไป เราเดินทางมากับจินตนาการที่จะมี ‘รถเหาะได้’ มานานนับศตวรรษ และคงเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ เพราะจินตนาการของมนุษย์นั้น มีพลังมหาศาลที่จะขับเคลื่อนโลกใบนี้เสมอ 

ซึ่งไม่ว่ามันจะล้ำหน้าขนาดไหน แต่หัวใจสำคัญของนวัตกรรมที่ดี คือ นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคม และทำให้สังคมเติบโตได้อย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่เพียงตอบสนองต่อประโยชน์แค่กับคนเพียงบางกลุ่มเท่านั้น เพราะไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมใด ทรัพยากรที่ใช้ก็คือทรัพยากรที่เราใช้ร่วมกัน

.

.


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ Blockdit : THE STATES TIMES 
???? https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32