นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังไม่เสนอ เรื่องค่าตอบแทน ชดเชย และเสี่ยงภัย สำหรับการปฏิบัติงานของ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.  1,500 บาทตลอดชีพ จากเดิมที่ได้เพียง 1,000 บาท โดยอ้างว่ากรณีดังกล่าวเกี่ยวพันกันงบประมาณ จึงต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เวลาศึกษารายละเอียดก่อน 

 การกระทำขชองรัฐบาล ชัดเจนว่าไม่มีความจริงใจกับเจ้าหน้าที่อสม.ทั้งประเทศ และไม่ให้ความสำคัญกับเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงานอย่างสุดความสามารถในการระงับยับยั้งการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ทั้งๆที่ในการลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคหาเสียงกับกลุ่มอสม.ว่าจะมีการยกระดับชีวิตละความเป็นอยู่ของของอสม.ให้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี 

นายสงคราม กล่าวด้วยว่า รัฐบาลไม่จริงใจที่จะช่วยให้เจ้าหน้าที่อสม.มีชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งๆที่ในการทำงานของอสม.ในสถานการณ์วิกฤติโรคระบาดที่ผ่านมา ต้องทำงานบนความเสี่ยง ไม่ได้รับการสนับสนนุนอุปกรณ์ในการปกป้องชีวิตตัวเองจากหน่วยงานรัฐ ต้องจัดซื้อเอง ทั้ง ถุงมือ หน้ากากอนามัยอุปกรณ์วัดไข้ แม้แต่เจลล้างมือ ดังนั้นขอให้เจ้หาหน้าที่อสม.จดจำไว้ว่าพรรคการเมืองไหนเคยรับปากอะไรไว้แล้วทำได้หรือไม่ เลือกตั้งครั้งหน้าควรบทเรียนกับคนเหล่านี้ 

“ในขณะเดียวกันรัฐล้มเหลวในการปกป้องชีวิตนักเรียน ที่ผ่านมาเคยเตือนแล้วว่ากระทรวงศึกษาต้องเตรียมพร้อม ตามนโยบายเปิดให้เรียนในโรงเรียนแทนการเรียนออนไลน์  ทั้งเครื่องตรวจ ATK หรืออุปกรณ์ในการป้องกันต้องพร้อม ตั้องปกป้องชีวิตเยาวชน ทั้งนี้รัฐบาลอ้างว่าไม่มีงบประมาณต้องให้ท้องถิ่นไปดำเนินการ ผลที่ตามมาเปิดเรียนไม่นานนักเรียนตั้งแต่อนุบาลจนถึงนักเรียนนประถมติดโควิดเป็นจำนวนมาก แต่รัฐบาลไม่ยอมให้พื้นที่ไม่เปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริงกับสังคมกลังประทบกับการเปิดประเทศ ต้องโทษพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกลัวข่าวที่ออกมาจะกระทบกับการเปิดประเทศ รัฐบาลเห็นนักท่องเที่ยวมากกว่าปกป้องชีวิตเด็กนักเรียน” นายงคราม กล่าว