ส.ส. พร้อมใจหนุนตั้งกาสิโนถูก กม. ชี้ เป็นช่องทางหารายได้เข้าประเทศ

ส.ส. ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลพร้อมใจอภิปรายสนับสนุนการตั้ง กมธ.ศึกษากาสิโน ในประเทศ เห็นไปในแนวทางเดียวกันเป็นส่วนใหญ่ควรทำให้ถูกกฎหมายเก็บรายได้เข้าประเทศ

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติด่วน การขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ โดยมี มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้มี ส.ส. ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเสนอญัตติในทำนองเดียวกันเข้ามา 12 ฉบับ จึงนำมาพิจารณาไปพร้อมกัน โดยทุกฉบับมีเนื้อหาตรงกัน คือ เสนอให้ตั้งบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายที่เมืองหลัก และเมืองท่องเที่ยว เป็นช่องทางหารายได้เข้าประเทศ

นายชัชชาลย์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไทย กล่าวว่า การเล่นพนันปัจจุบันเปลี่ยนรูปแบบเดิมจากที่ผู้เล่นเดินทางไปเล่นตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นเล่นบนอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ ทั้งจากผู้ให้บริการในประเทศ เช่น น้ำเต้า ปู ปลา และต่างประเทศในรูปแบบเกมต่าง ๆ เช่น ฟุตบอล บาคาร่า สล็อต สามารถทำได้อย่างถูกกฎหมาย ทำให้มีผู้ผลิตแข่งขันกันอย่างเสรี จึงมีการนำเข้าเกมจากต่างประเทศเข้ามามากมาย ทำให้ประเทศสูญเสียเม็ดเงินมหาศาล หากมีการปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ไม่สามารถห้ามหรือกำกับได้ ก็ควรมีการออกกฎหมายควบคุมและป้องกันอย่างเหมาะสม หากมีการทำให้บ่อนพนันมีขึ้นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เช่น กำหนดอายุผู้เล่น กำหนดมาตรการออกใบอนุญาตให้กับผู้ประกอบการ ทั้งกิจการการพนัน และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง กำหนดบทลงโทษที่เหมาะสม ออกแบบโครงสร้างเรียกเก็บภาษีที่เหมาะสม แก้ปัญหาการไหลออกของเม็ดเงิน

ทั้งนี้ ทางพรรคได้ทำการศึกษาขั้นต้นพบว่า ธุรกิจการพนันออนไลน์ในประเทศวงใหญ่มาก มีเงินสูงถึง 3 ล้านล้านบาทต่อเดือน หรือปีละ 36 ล้านล้านบาท หากรัฐสามารถเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมที่เหมาะสมได้ ก็จะสามารถนำเงินไปใช้หนี้ให้กับเกษตรกร หรือใช้หนี้ให้เด็กที่กู้ยืมมาศึกษา หรือเป็นทุนช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย สามารถเข้าถึงสถาบันการเงิน โดยจากข้อมูลที่ได้มาพบว่า กำไรเฉลี่ยธุรกิจพนันอยู่ที่ 20% หากเรียกเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมในอัตรา 25% จากกำไร สามารถนำรายได้เข้ารัฐปีละ 1.8 แสนล้านล้านบาท ทำให้ประเทศมีสภาพคล่องนำไปใช้เพื่อช่วยพัฒนาประเทศในเชิงเศรษฐกิจและสังคมต่อไป

“นี่ขนาดเก็บภาษีจากออนไลน์ยังไม่รวมกาสิโนที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไทยมีสถานที่พร้อมจะตั้งกาสิโนได้ทุกภาค เพื่อหาเงินเข้าประเทศ อย่างผลการศึกษาของนายสังศิต พิริยรังสรรค์ ที่เคยทำการศึกษาหวยใต้ดินที่สิงคโปร์ ทำรายได้ปีละ 1.5 แสนต่อปี ไทยเรามีสถานที่ที่คนมาเที่ยวเยอะมาก หากเปิดได้ทั้ง 4 ภาค ๆ ละ 1.5 แสนล้านบาทต่อปี ก็ทำให้มีรายได้ปีละ 6 แสนล้านล้านบาท”

ด้าน นายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เสนอให้ตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ในพื้นที่ กทม. โดยรัฐบาลไม่ต้องลงทุน แค่อนุญาตให้เปิดได้ จะมีกลุ่มทุนใต้ดินมาอยู่บนดิน ร่วมกับกลุ่มทุนต่างประเทศมาลงทุนทำสถานบันเทิงครบวงจร คนที่เข้าไปเล่นบ่อนกาสิโนได้ ต้องอายุเกิน 21 ปี มีเงินในบัญชีเกิน 1 ล้านบาท

ขณะที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ อภิปรายว่า ทุกวันนี้ในกทม. มีบ่อนใหญ่และขนาดกลาง 50 แห่ง อีก 76 จังหวัด มีบ่อนใหญ่จังหวัดละ 2 แห่ง บ่อนเหล่านี้มีรายได้ 72,000 ล้านบาทต่อปี ไม่รวมบ่อนพนันจากเว็บไซต์ อีก 100 เว็บ มีรายได้ 12,000 - 24,000 ล้านบาทต่อปี จึงถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องมีบ่อนถูกกฎหมาย กระจายไปตามเมืองหลัก เมืองรอง โดยให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพทำเอง เน้นให้คนต่างชาติมาเล่น จะเป็นทางรอดให้ประเทศขณะนี้

อย่างไรก็ตาม หลังจาก ส.ส. แต่ละคนที่เสนอญัตติได้อภิปรายประกอบเหตุผลการสนับสนุนให้ตั้งกาสิโนถูกกฎหมายในขั้นตอนการให้ผู้เสนอญัตติอภิปรายสรุป นายศุภชัย โพธิ์สุ ประธานสภาฯ ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุมแจ้งว่า วิปทั้งสองฝ่ายได้ประสานมาว่าหากให้ผู้เสนอญัตติทั้ง 12 คนต้องอภิปรายสรุปทุกคนจะใช้เวลานาน อีกทั้งเป็นญัตติที่มีผู้สนใจอภิปรายอีกเป็นจำนวนมาก จึงอยากให้เลื่อนการลงมติในญัตตินี้ออกไปในการประชุมครั้งต่อไป


ที่มา : https://www.posttoday.com/politic/news/669140