‘อ.แพท’ แจงความหมาย LOST IN BANGKOK ชี้ ‘รัสเซล โครว์’ สื่อถึง ‘หลงใหล’ ไม่ใช่ ‘หลงทาง’

คุณพัฒนพงศ์ (แพท) แสงธรรม อาจารย์ คณะศิลปศาสตร์ (ภาควิชาภาษาอังกฤษ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีรัสเซล โครว์ โพสต์ภาพท่องเที่ยวชุด LOST IN BANGKOK ในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยระบุว่า The Meaning of Being Lost : LOST IN BANGKOK แปลผิดว่า "หลงทาง" กันเยอะ เพราะไม่เข้าใจคำว่า lost

to be lost: นอกจากจะแปลว่าหลงทางแล้ว มันแปลว่า เคลิบเคลิ้ม จนไม่รู้กาลเวลา เพลิดเพลิน ดื่มด่ำ อย่างเช่นเพลง "Lost in Love" ของ Air Supply คือตกอยู่ในภวังค์ ของความรัก ไม่รู้วันรู้คืน ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ไม่มีเวลาหรือสถานที่ ไม่รับรู้เหตุผล

Debbie Gibson มีเพลงดังชื่อ Lost in Your Eyes ไม่ได้หลงทางอยู่ในเบ้าตา แต่มองตาเธอแล้วจังงัง ทำอะไรไม่ถูก เคลิ้มในเสน่ห์

ในโบรชัวร์นำเที่ยว ภาษาอังกฤษ จะใช้การเชิญชวนด้วยคำว่า lost เช่นจะแนะนำว่า ให้ไปเที่ยว เกียวโต แล้ว Get lost in the subtle splendor of ancient Japan ไปเพลิดเพลินอยู่กับความอลังการอันสุขุมของญี่ปุ่นยุคโบราณ จนลืมเวลา

ตลอดมา Russell Crowe ใช้ฉันทลักษณ์ในการสื่อด้วย Twitter บอกให้รู้ว่า หลงใหลเสน่ห์ของเมืองไทยแค่ไหน เช่นใช้รูปแบบภาษา dreaming  อันแปลได้ว่า "ในฝัน" ให้ความหมายเชิงบวก ที่สะท้อนความหลงใหล เช่น Amanpuri Dreaming โรงแรมสวยดั่งฝัน  Bangkok Dreaming กรุงเทพแดนฝัน เพลง California Dreaming เกิดห้วงคำนึง ฝันถึงแคลิฟอร์เนีย ที่ไม่หนาวเหน็บเหมือนตรงนี้

ในส่วนของสำนวน Lost in Bangkok บอกถึงความเพลิดเพลิน ไปกับสิ่งที่พบเห็น ผู้คน เพลินจนลืมว่าชีวิตจริง มีภาระรับผิดชอบอะไรบ้าง มาเพื่อทำงาน แต่สนุกเหลือเกินจน "ลืมโลก" นั่นคือความหมายของ Lost in Bangkok 

จะชอบ Russell Crowe หรือไม่ ก็เรื่องส่วนตัว แต่ที่เขาทวีต และโพสต์มาตลอด ต้องเข้าใจให้ถูกต้องว่า เขาชอบเมืองไทยมาก

ส่วนไอ้เรื่องรูปสายไฟน่ะ หยุดบ้านนอกเถอะ สายไฟยุ่งๆ ฝรั่งที่เดินทางรอบโลก เห็นมาแล้วจากทุกประเทศ ทั้งญี่ปุ่น บราซิล อินเดีย เวียดนาม ภาพที่รัสเซลล์โพสต์ มี composition ที่โชว์ลักษณะของสายไฟที่มากมาย แต่เรียงตัดกันเป็นตาราง เป็นลายเส้น geometric สะท้อนถึงความ "ฉงน" (amazement) ดังที่เมืองไทยใช้แคมเปญ Amazing Thailand  ภาพเล่าความเป็นไปของเมืองไทย ที่ manage แบบ basic แต่ functioning จัดการแบบพื้นฐานแต่ใช้งานได้ มันเป็นภาพที่เล่าเรื่อง chaos ความยุ่งเหยิงของสังคมเมืองใหญ่ ที่ดำเนินไปได้ด้วยวิธีการของมันเอง

คนไทยเองก็ยังล้อกันเวลาเห็นสายไฟ สายโทรคมนาคม สายอินเทอร์เน็ต ว่าพนักงานจัดการกับเส้นสายเหล่านี้ได้ยังไง รู้ได้อย่างไรว่า สายไหนเป็นของบ้านไหน

สำนวน LOST IN BANGKOK ไม่ใช่สำนวน "เหน็บ" หรือ "แขวะ" เมืองไทย แต่เป็นสำนวนที่บอกคนที่ติดตามว่า ใช้เวลาไปเรื่อยเปื่อยอย่างเพลิดเพลิน เช่าจักรยานถีบไปตามชุมชนแถวพระประแดง เดินไปเที่ยววัด ไปหา street food กินกันที่ร้าน Michelin ไม่แคร์ว่าอยู่ตรงไหน นี่คือกรุงเทพ

ต่างจากเวลาที่เราบอกใครว่า Get lost ! ซึ่งแปลว่า ไปให้พ้นซ่งทีน หรือหนังเรื่อง Lost in Space ที่แปลว่าหลงอยู่ในจักรวาลหาทางกลับบ้านไม่เจอ


ที่มา : https://www.facebook.com/100000845184675/posts/4567184183319709/