'ส.ศิวรักษ์’ ระบุพระเกี้ยวเป็นสัญลักษณ์ของรัชกาลที่ 5 เมื่อจุฬาฯ สร้างขึ้นถวายรัชกาลที่ 5 การเชิญชูพระเกียรติก็พึงจะทำ แต่เมื่อการแบกเสลี่ยงนั้นหนัก และนิสิตเขาไม่พอใจ ก็ควรที่จะเปลี่ยนได้

ถ้าแบกแล้วหนัก ก็เปลี่ยนวิธีการซะ!! 

'ส.ศิวรักษ์’ ระบุพระเกี้ยวนั้นเป็นสัญลักษณ์ของรัชกาลที่ 5 เมื่อจุฬาฯ สร้างขึ้นถวายรัชกาลที่ 5 การเชิญชูพระเกียรติก็พึงจะทำ แต่เมื่อการแบกเสลี่ยงนั้นหนัก และนิสิตเขาไม่พอใจ ก็ควรที่จะเปลี่ยนได้

เพจ Sulak Sivaraksa ของ นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ โพสต์ความเห็นต่อกรณียกเลิกขบวนอัญเชิญพระเกี้ยว ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย น่าเสียดายที่ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ เท่าที่ผมทราบ มติที่ประชุมขององค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.) เป็นเอกฉันท์ เห็นว่า การอัญเชิญพระเกี้ยวนั้นคนที่ถูกเกณฑ์ให้ไปแบกหาม ไม่มีใครเขาพอใจ เพราะฉะนั้น การจะทำอะไรต่างๆ ก็ควรให้นิสิตพอใจ 

เป็นธรรมดาว่า กิจการบางอย่างควรรักษาไว้ บางอย่างควรจะเลิก ก็ไม่เห็นเสียหายอะไร เช่น ถ้าจะรักษาการอัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีไว้ ก็ทำได้โดยใช้ยานพาหนะอื่น กระทั่งรถยนต์ประดับประดามาแห่แทน เสียดายที่ประกาศของ อบจ. ออกไปไม่ชัดเจน หัวกระดาษเขียนว่า “ยกเลิกกิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยว” แต่ผลของมติ คือ “ยกเลิกกิจกรรมการคัดเลือกผู้อัญเชิญพระเกี้ยว” และไปกล่าวถึงว่า พระเกี้ยวบนเสลี่ยงนั้นเป็นสัญลักษณ์ของศักดินา เพราะพระเกี้ยวนั้นเป็นสัญลักษณ์ของรัชกาลที่ 5 เมื่อมหาวิทยาลัยแห่งนี้สร้างขึ้นถวายรัชกาลที่ 5 การเชิญชูพระเกียรติก็พึงจะทำ

แต่เมื่อการแบกเสลี่ยงนั้นหนัก และนิสิตเขาไม่พอใจ ก็ควรที่จะเปลี่ยนได้ ผมจึงไม่เข้าใจที่ผู้หลักผู้ใหญ่ออกมาโจมตีเด็กกันมากมาย ผู้เยาว์นั้นแน่นอนว่า ทำอะไรย่อมมีผิดมีพลาด พวกเราเป็นผู้ใหญ่ก็ควรจะให้อภัย ควรจะแนะนำเขาดีๆ ในทางที่ถูกต้องดีงาม

การโจมตีผู้น้อย หรือรังแกคนรุ่นใหม่จนเกินเลยไป ผมเห็นว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษ ไม่มีใจเป็นธรรมพอ ก็อยากจะฝากคำพูดไว้ให้ตรึกตรองกันดู เรื่องเล็กจะได้ไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นไปทั่วโลก เพื่อนฝูงผมที่อยู่อเมริกา อยู่ยุโรปก็ส่งข่าวกันมา จึงหวังว่าผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะส่งข่าวที่เป็นมงคลให้คนไทยทั่วโลกได้รับรู้


ที่มา: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=424587735702581&id=100044540731882