“Squid Game” สุดปัง!! ดันหุ้นอุตสาหกรรมสื่อบันเทิงพุ่งทะยาน | Knowledge Times EP.28

???? KnowledgeTimes BizView
???? “Squid Game” สุดปัง!! ดันหุ้นอุตสาหกรรมสื่อบันเทิงพุ่งทะยาน 

ปังไม่หยุด! สำหรับซีรีส์เรื่อง “Squid Game” หรือชื่อไทยว่า “เล่นลุ้นตาย” โดยผู้สร้าง “ฮวังดงฮยอก” ที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ ในการสร้างปรากฏการณ์ความฮอตให้คนทั้งโลก รวมถึงทำให้วัฒนธรรมการละเล่น ไปจนถึงการเกิดเทรนด์ใหม่ ๆ ขึ้น จนเป็นไวรัลที่มองข้ามไม่ได้!!

ล่าสุด Squid Game ได้พิสูจน์ความเป็นซีรีส์ยอดนิยมแห่งปี ที่ไม่ใช่แค่เรตติ้งที่พุ่งกระฉูดเท่านั้น แต่ยังสร้างสถิติเป็นซีรีส์เกาหลีเรื่องแรกที่สามารถคว้าอันดับ 1 ความยอดนิยมบน Netflix ในสหรัฐฯ ไปเรียบร้อย

ที่สำคัญ ซีรีส์เรื่องนี้ ยังส่งผลไปถึงราคาหุ้นของ Netflix รวมไปถึงบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการสร้างซีรีส์เรื่องนี้ มีมูลค่าขยับปรับตัวสูงขึ้นกันถ้วนหน้า 

โดย Bucket Studio ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทต้นสังกัดของนักแสดงนำ “อีจองแจ” มีราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 2% ในช่วงที่ออนแอร์วันแรกในการซื้อขายตลาดหุ้น KOSPI ของเกาหลีใต้ โดยราคาดีดตัวขึ้นมาอยู่ที่ 5,290 วอน เมื่อเทียบกับในช่วงก่อนที่ Squid Game จะออนแอร์ที่ระดับ 2,800 วอน ดันมูลค่าหุ้นจาก 114 พันล้านวอน ขึ้นมาเกือบแตะ 2 แสนล้านวอน (หรือ 170 ล้านดอลลาร์) (ณ วันที่ 17 ก.ย.)

ในขณะที่ Showbox ซึ่งถือหุ้นใน บริษัท Siren Pictures ผู้ผลิตซีรีส์เรื่องดังกล่าว พุ่งขึ้นกว่า 50% โดยราคาหุ้นปรับขึ้นอยู่ที่ 5,980 วอน (ณ วันที่ 17 ก.ย.) ขณะที่ก่อนหน้านี้ราคาหุ้นเคยตกลงไปถึง 10%

“โอแทวอน” นักวิเคราะห์จาก Korea Investment & Securities กล่าวว่า บริษัทสื่อบันเทิงของเกาหลีใต้มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น ซึ่ง Squid Game ยังทำให้หุ้นในกลุ่มสื่อและโฆษณาของเกาหลีใต้ได้อานิสงส์ไปด้วย เช่น Astory เพิ่มขึ้น 15.7%, Next Entertainment World เพิ่มขึ้น 12.7% และ Samhwa Networks เพิ่มขึ้น 10.2% ในช่วง 3 วันหลังซีรีส์เรื่องนี้ออนแอร์

ส่วนหุ้นของ Netflix เอง ก็ได้ทำสถิติสูงสุดใหม่เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ซึ่งปิดการซื้อขายไปที่ 610.34 ดอลลาร์ หลังนักลงทุนให้ความมั่นใจว่าบริษัทยังคงสามารถสร้างฐานสมาชิกเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง และเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา ก็เพิ่มขึ้นอีก 5.2% โดยมีราคาสูงสุดอยู่ที่ 640.39 ดอลลาร์ 

“Reed Hastings” CEO ของ Netflix ระบุว่า ความสำเร็จของ Squid Game สร้างความประหลาดใจให้กับ Netflix เช่นกัน เนื่องจากบริษัทไม่ได้คาดหวังว่าจะมีผู้ชมทั่วโลกมากมายขนาดนี้ นอกเหนือจากนั้น สินค้าอย่างรองเท้าสลิปออนสีขาว ที่นักแสดงใช้ใส่ในฉากการเล่นเกม ยังมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 7,800% เลยทีเดียว 

ขณะที่ ผู้ชมที่ชื่นชอบซีรีส์เรื่องนี้ยังพยายามหาซื้อชุดวอร์มและรองเท้าผ้าใบสีขาว ที่คล้ายกับที่ผู้เข้าแข่งขันในซีรีส์สวมใส่ ตามข้อมูลของ Lyst Insights พบว่า ยอดขายชุดวอร์ม เพิ่มขึ้น 97% ส่วนรองเท้าผ้าใบสีขาวมียอดขายเพิ่มขึ้น 145% ขณะที่ชุดที่มีลักษณะคล้ายผู้คุมในซีรีส์ ยังมียอดขายเพิ่มขึ้น 35%  

นอกจากนี้ในโลกโซเชียล อย่าง TikTok ยังมีกระแสนำเกมที่ปรากฏในซีรีส์ไปเล่นตาม โดยเฉพาะเกม “AEIOU” ซึ่งมาสคอตเด็กผู้หญิงผมแกะได้รับความนิยมสูงมาก จนถูกนำไปวางตามสถานที่ต่าง ๆ นอกจากนี้ ที่สร้างกระแสอย่างมากคือ เกมแกะน้ำตาล หรือขนมทัลโกนา ที่กลับมาฮิตอีกครั้ง เนื่องจากเป็นเกมที่เด็ก ๆ เกาหลีใต้ ยุค 80- 90 นิยม ก่อนที่จะเลือนหายไปตามกาลเวลา

ไม่เพียงในต่างประเทศเท่านั้น ในไทยเราเองก็ไม่น้อยหน้ากัน เราได้เห็นเหล่าคนบันเทิง มาแต่ง Cover ตามตุ๊กตาเด็กผู้หญิงตัวยักษ์ใหญ่ในเกม AEIOU หรือแม้แต่ขนมทัลโกนาน้ำตาลเคี่ยว ก็ต่างฮิตทำตาม ๆ กัน รวมไปถึงเปิดให้บริการเกมบนมือถือชื่อ “Squid Game Challenge” ที่ดัดแปลงจากซีรีส์ บนระบบ Android ใน Google Play Store ของไทยด้วยเช่นกัน 

ทำให้เห็นว่า Squid Game เป็นเหมือนเครื่องตอกย้ำว่า อุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้มีความต้องการจากทั่วโลกไม่น้อย และเป็นที่น่าจับตามองว่า กระแสการตอบรับซีรีส์จากเกาหลีใต้ครั้งนี้ อาจจะทำให้อุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้ก้าวเข้ามาเป็นคู่แข่งสำคัญของ HOLLYWOOD ในอนาคตก็เป็นได้ 

.

.