"จุรินทร์" เห็นด้วยเปิดประเทศ 1 พ.ย. เชื่อการท่องเที่ยวช่วยกระตุ้นจีดีพีประเทศเพิ่มขึ้น

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ประกาศเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ในวันที่ 1 พ.ย.ว่า ตนเห็นด้วย เพราะหลักสำคัญที่ตนเคยพูดคือเราต้องนำเศรษฐกิจฝ่าวิกฤตโควิด19ไปให้ได้ ต้องยอมรับความจริงว่าสองเครื่องยนต์หลักที่ช่วยประเทศขับเคลื่อนเศรษฐกิจคือการส่งออกกับการท่องเที่ยว และเมื่อเราเจอสถานการณ์โควิด เราเหลือแค่เพียงการส่งออก ส่วนการท่องเที่ยวนั้นหายไปเยอะ จากตัวเลขก่อนสถานการณ์โควิดคิดเป็น 11%ของ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)  แต่ช่วงวิกฤตโควิดจนถึงวันนี้เหลือเพียงแค่เปอร์เซ็นต์กว่าๆ ขณะที่การส่งออกเพิ่มไปถึง 51% จึงถือว่าการส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา และเมื่อเราเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามา โดยมีเงื่อนไขดูแลมาตรการโควิดควบคู่กันไป ก็จะมีการท่องเที่ยวเติมเข้ามา ทำให้จีดีพีของเราเพิ่มขึ้นไปได้  ส่วนเรื่องของสถานการณ์นั้นกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้ตอบ แต่ตนมองว่าก็ดีขึ้นเรื่อยๆ

"เราต้องดูว่าสมดุลอยู่ตรงไหนระหว่างโควิดกับเศรษฐกิจ รัฐบาลมีหน้าที่แก้ทั้ง 2 ข้อ เป็นโจทย์ที่ทับซ้อนกันอยู่ ถ้าเราดูโควิดอย่างเดียวโดยไม่ดู เศรษฐกิจมันก็ลำบาก แต่ถ้าดูเศรษฐกิจไม่สนใจโควิดก็จะเดือดร้อนด้านสุขภาพ อาจเสียชีวิตมากขึ้น ต้องดูให้สมดุล นายกฯต้องตัดสินใจ ซึ่งท่านดูแล้วว่าวันที่ 1 พ.ย. สามารถเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาโดยลดเงื่อนไขต่างๆที่เป็นข้อจำกัด ก็ต้องฟังนายกฯ" นายจุรินทร์กล่าว