ครม.ต่ออายุทำคู่มืออาหารมิชลินไกด์ อีก 5 ปี วงเงิน 135 ล้านบาท

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ต่ออายุโครงการมิชลินไกด์ ไทยแลนด์ อีก 5 ปี โดยอนุมัติการก่อหนี้ผูกพันปี 65-69 วงเงิน 8.2 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 135.30 ล้านบาท โดยแบ่งจ่ายเป็นรายปี ปีละประมาณ 27 ล้านบาท เพื่อจัดทำคู่มือแนะนำร้านอาหาร ซึ่งในระยะต่อไปนี้กำหนดพื้นที่ดำเนินการคือกรุงเทพฯ จังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต พังงา พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งต้องมีการสำรวจร้านอาหารเพิ่มอย่างน้อย 3 จังหวัด โดยเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างน้อย 1 จังหวัดด้วย

สำหรับกระบวนการดำเนินโครงการนั้น จะเริ่มจากการคัดเลือกและรวบรวมรายชื่อร้านอาหารที่อยู่ในระดับมาตรฐานของมิชลิน มีขั้นตอนตั้งแต่การลงพื้นที่สำรวจร้านอาหาร การตรวจสอบคุณภาพและรสชาติอาหารโดยผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกที่ผ่านการอบรมตามเกณฑ์ของมิชลิน โดยมิชลินเป็นผู้รับผิดชอบในการคัดเลือกทีมงาน และแต่งตั้งคณะผู้ตรวจสอบเพื่อดำเนินการคัดเลือกร้านอาหารและจัดอันดับร้านอาหารอย่างยุติธรรมตามระเบียบวิธีการของมิชลิน จากนั้นจะมีการพิมพ์หนังสือ มิชลินไกด์ ไทยแลนด์ ทุกปี เพื่อแนะนำร้านอาหารที่ผ่านกระบวนการประเมินผล

ทั้งนี้จะมีการแถลงข่าวสร้างการรับรู้การจัดทำโครงการมิชลินไกด์ ไทยแลนด์ ประจำปี 2565-2569 รวมถึงจัดงานมอบรางวัลให้แก่ร้านอาหารที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากมิชลิน พร้อมดำเนินการตรวจสอบคุณภาพร้านอาหารในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี นอกจากนี้ยังมอบสิทธิรางวัล Michelin Thailand Service Award By TAT ให้แก่ ททท. ซึ่งเป็นรางวัลใหม่ ที่เพิ่มขึ้นจากสิทธิประโยชน์เดิม โดยเป็นรางวัลสำหรับบุคลากรผู้ให้บริการยอดเยี่ยม

ขณะเดียวกันทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รายงานว่า  โครงการมิชลินไกด์ ไทยแลนด์ ประจำปี 2560-2563 ที่ผ่านมา ได้ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทย ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมผ่านวัฒนธรรมอาหารที่มีคุณภาพและมีมาตรฐาน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มมูลค่าและศักยภาพของอาหารไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมถึงร้านอาหารริมทาง(Street Food) ช่วยให้ร้านอาหารของไทยมีการพัฒนาและยกระดับคุณภาพเพื่อรักษามาตรฐาน ส่งเสริมภาพลักษณ์ของเชฟไทยสู่เวทีระดับสากล  ดึงดูดเชฟชั้นนำต่างประเทศให้มาทำงานในประเทศไทย และส่งเสริมให้เกิดการลงทุนเปิดร้านอาหารระดับ High-End มากยิ่งขึ้น