‘เอไอเอส’ จับมือ ‘ไทยพาณิชย์’ ประกาศลงนามสัญญาร่วมทุนเพื่อจัดตั้งบริษัท ‘เอไอเอสซีบี เพื่อให้บริการทางการเงิน เตรียมให้บริการด้านการเงินดิจิทัล เพิ่มโอกาสให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการเงิน
‘เอไอเอส’ จับมือ ‘ไทยพาณิชย์’ ประกาศลงนามสัญญาร่วมทุนเพื่อจัดตั้งบริษัท ‘เอไอเอสซีบี’ ครั้งแรกในไทยที่ผู้นำในสองอุตสาหกรรมหลักของประเทศ Telco และ ธนาคาร ร่วมทุนกันเพื่อให้บริการทางการเงิน เตรียมให้บริการด้านการเงินดิจิทัล เพิ่มโอกาสให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการเงิน
บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาร่วมทุนกับธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในการร่วมกันจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ บริษัท เอไอเอสซีบี จำกัด (AISCB) โดยจะมีทุนจดทะเบียน 600,000,000 บาท เอไอเอสและ SCB จะถือหุ้นในสัดส่วน 50:50 มีวัตถุประสงค์หลักในการประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Lending) เพื่อสร้างการเข้าถึงบริการทางการเงินที่สะดวกมากยิ่งขึ้น ก่อนขยายสู่บริการทางการเงินอื่นๆ ต่อไป นับเป็นก้าวสำคัญในการผนึกกำลังสร้างฐานธุรกิจแห่งการเติบโตในรูปแบบใหม่ให้กับทั้งสององค์กรชั้นนำระดับประเทศ
บริษัทร่วมทุนดังกล่าวได้นำเอาจุดเด่นของพันธมิตรทั้งสอง คือ ความแข็งแกร่งทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ นวัตกรรมอันล้ำสมัย ตลอดจนศักยภาพในการให้บริการลูกค้าของเอไอเอส มาผสานเข้ากับความน่าเชื่อถือของแบรนด์ รวมถึงประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านบริการทางการเงินของธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อมุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมและบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ผ่านช่องทางดิจิทัลที่จะสามารถสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินให้กับคนไทยได้มากยิ่งขึ้นท่ามกลางบริบทของโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
การเข้าร่วมทุนในธุรกิจให้บริการสินเชื่อดิจิทัลนี้สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของเอไอเอสในการเป็นผู้ให้บริการด้านดิจิทัลไลฟ์โดยเป็นการต่อยอดสนับสนุนธุรกิจหลักของบริษัทเพื่อสร้างประสบการณ์ในการเข้าถึงบริการด้านการเงินให้กับฐานลูกค้าของบริษัท อันจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ในอนาคต
ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่าง ‘เอไอเอส’ และ ‘ธนาคารไทยพาณิชย์’ ในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของเมืองไทยที่บริษัทชั้นนำในสองอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ได้แก่ Telco และสถาบันการเงิน ร่วมทุนเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สามารถตอบโจทย์คนในวงกว้างโดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ โดยทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่จะผลักดันการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศท่ามกลางความท้าทายในปัจจุบันอย่างแน่นอน