“แรมโบ้”ลั่นรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีเพิ่ม “ เต้น-บก.ลายจุด"ข้อหาปลุกระดมป่วนเมืองสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ทำผิดพ.ร.ก. ฉุกเฉิน พ.ร.บ. โรคติดต่อและความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา116
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการจัดชุมนุมคาร์ม็อบ คอลเอาท์ ของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ บก.ลายจุด พร้อมพวก พร้อมประกาศชุมนุมใหญ่อีกครั้งในวันที่ 2 ก.ย.ว่า ตนเองได้มอบให้ทนายความรวบรวมหลักฐานความผิดของนายณัฐวุฒินายสมบัติและพวก เพื่อเข้าแจ้งความเพิ่มเติมในหลายกระทง ความผิดต่างกรรมต่างวาระ เนื่องจากพบว่าการเคลื่อนไหวจัดกิจกรรมของนายณัฐวุฒิ ทำให้ประชาชนที่อยู่บริเวณที่จัดกิจกรรมรวมถึงทำให้คนที่ใช้รถใช้ถนนได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อผิดกฎหมายอาญามาตรา 116และอื่นๆ ตลอดจนมวลชนที่ออกมาชุมนุมได้พกพาอาวุธปืน ระเบิดไฟ ระเบิดปิงปอง และอาวุธนานาชนิด ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง จะปฎิเสธเป็นคนละกลุ่มไม่ได้เด็ดขาด เพราะแกนนำทั้งสองเป็นคนประกาศเชิญชวนมวลชนออกมาลงถนนจะปฎิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
นายเสกสกล กล่าวว่า ส่วนการประกาศนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 2 กันยายนนั้น ขอให้นายณัฐวุฒิและพวกคิดด้วยว่าจะทำให้ประชาชนเดือดร้อนมากน้อยแค่ไหน โดยอย่าคิดเอาเองว่าคนทั้งประเทศเห็นใจและสนับสนุนการเคลื่อนไหวของนายณัฐวุฒิและพวก เพราะยังมีคนอีกจำนวนมากที่ยังอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ แก้ไขปัญหาให้กับประเทศอยู่ ยิ่งในช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ที่กำลังลดจำนวนลงและกำลังคลายล็อคหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อให้เศรษฐกิจประเทศเดินไปได้ นายณัฐวุฒิไม่ควรจะนำประเด็นผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมาเป็นข้ออ้างในการที่จะขับไล่นายกฯ เพราะไม่มีใครอยากให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น อีกทั้งนายกฯก็สามารถแก้ได้ดีทำให้สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ ถึงอย่างไรนายณัฐวุฒิก็ต้องแกล้งทำโง่ทำเป็นไม่รับรู้เพราะมีธงในใจรับงานจากนายใหญ่มา ใครก็อ่านทางออก
"การหลอกลวงชักจูงปลุกระดมป่วนเมืองให้คนลงมาสู่ถนน ทำผิดกฎหมายและหวังจะเหยียบข้ามศพประชาชนอีกครั้งเพื่อไปเอารางวัลตอบแทนจากนายใหญ่ ให้ตนเองร่ำรวย แกนนำประเภทนี้ ฝากประชาชนช่วยทบทวนและอย่าไปให้เครดิต ในสมองวันๆคิดแต่เผาบ้านเผาเมือง ทำลายประเทศ ไม่มีจิตสำนึกความรักบ้านรักเมือง ขอเพียงได้รับรางวัลจากนายใหญ่ สู้แล้วรวย สู้แล้วได้เป็นรัฐมนตรี ชีวิตทั้งชีวิตมีอาชีพทำได้แค่นี้ ทำอาชีพอื่นไม่เป็น สุดท้ายแห่งชีวิตคงมีจุดจบ คือไม่หนีออกนอกประเทศเหมือนแกนนำคนอื่นๆก็ต้องเข้าไปอยู่ในคุกอีกรอบอย่างแน่นอน ขอประชาชนอย่าไปเป็นเครื่องมือให้กับคนเลวที่คิดแต่จะทำลายชาติบ้านเมือง ไม่มีจิตสำนึกที่จะคิดหวังดีต่อบ้านเมือง” นายเสกสกล กล่าว