ครม. ให้ปรับเงื่อนไขการชดใช้ทุน ทันตแพทย์จบใหม่ เข้ารับราชการ ต้อง มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ-ได้รับคัดเลือกตามแผนความต้องการของหน่วยงาน
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบให้ทบทวนมติครม.เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2525 เกี่ยวกับโครงการแก้ไขปัญหาการกระจายทันตแพทย์ที่มีเงื่อนไขเรื่องการเข้ารับราชการ โดยได้ปรับปรุงสาระสำคัญของโครงการ เกี่ยวกับการกำหนดเงื่อนไขการเข้ารับราชการใหม่ดังนี้ เดิมนโยบายเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาด้านการกระจายทันตแพทย์ ได้กำหนดให้ นักศึกษาทันตแพทย์ทุกคนทำสัญญาเข้ารับราชการ ขอปรับปรุงเป็น ให้นักศึกษาทันตแพทย์คู่สัญญาผู้ที่สำเร็จการศึกษาทันตแพทยศาสตรบัณฑิตจากสถาบันการศึกษาภาครัฐ ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันตกรรมและได้รับคัดเลือกตามแผนความต้องการทันตแพทย์ของส่วนราชการ หรือหน่วยงานในองค์กรของรัฐทุกคนเข้าปฏิบัติงานชดใช้ทุนตามสัญญา
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่ต้องปรับปรุงสาระสำคัญโดยระบุเงื่อนไขที่ชัดเจนมากขึ้นข้างต้น เนื่องจากในระยะแรกของโครงการฯมีเพียงสถาบันการผลิตทันตแพทย์ภาครัฐ แต่ในปัจจุบันมีสถาบันผลิตทันตแพทย์ภาคเอกชนด้วย และเพื่อลดภาระของกระทรวงสาธารณสุขในการจัดหาตำแหน่งงานอื่นมารองรับผู้สำเร็จการศึกษาทันตแพทยศาสตรบัณฑิตที่ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพประมาณปีละ 100 คน ไปปฏิบัติชดใช้ทุน เนื่องจากที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขจะต้องรับผู้สำเร็จการศึกษาภายหลังกระบวนการคัดเลือกของส่วนราชการ หรือหน่วยงานในองค์การของรัฐอื่นๆ ซึ่งเป็นการรับผู้สำเร็จการศึกษาที่ไม่ได้รับใบอนุญาตไว้ทั้งหมด
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นอกจากนี้ยังทบทวนสาระสำคัญที่เดิมระบุว่า จำนวนทันตแพทย์ในแต่ละปีนั้นให้รับราชการในส่วนภูมิภาค โดยรับราชการในกระทรวงสาธารณสุขไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 และรับราชการในหน่วยงานอื่นไม่เกินร้อยละ 30 ปรับเป็น จำนวนทันตแพทย์ผู้ทำสัญญาในแต่ละปีนั้นให้เข้าปฏิบัติงานในส่วนราชการ หน่วยงานในองค์การของรัฐ ตามแผนความต้องการของส่วนราชการหรือหน่วยงาน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการทันตแพทย์คู่สัญญาของกระทรวงสาธารณสุขซึ่งมีแนวโน้มจะต่ำกว่าร้อยละ 70 และความต้องการที่ลดลงของส่วนราชการหรือหน่วยงานในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งหลังจากที่ครม.มีมติตามที่เสนอครั้งนี้แล้ว กระทรวงสาธารณสุขจะประสานส่วนราชการจัดทำแผนความต้องการทันตแพทย์ราย 5 ปี และในแต่ละปีจะทบทวนความต้องการที่เกิดขึ้นจริงเพื่อประเมินสถานะความต้องการด้วย
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า อัตราส่วนทันตแพทย์ต่อประชากรในปี 2525 ในส่วนภูมิภาคอยู่ที่ 1:177,781 คน ทั้งประเทศสัดส่วนอยู่ที่ 1:26,678 คน ขณะที่ในปี 2563 อัตราส่วนทันตแพทย์ต่อประชากรในภูมิภาคอยู่ที่ 1:10,673 คน ทั้งประเทศอยู่ที่ 1:3,989 คน ซึ่งเป้าหมายอัตราส่วนของทันตแพทย์ต่อประชากร ตามที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้สำหรับประเทศกำลังพัฒนาอยู่ที่ 1:5,000 คน เป้าหมายของไทยในปี 2563 ในภูมิภาคอยู่ที่ 1:8,000 คน และทั้งประเทศอยู่ที่ 1:3,000 คน
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขมีแผนความต้องการรับทันตแพทย์คู่สัญญาเข้าปฏิบัติงานชดใช้ทุนประมาณปีละ 400 คนต่อปี คิดเป็นร้อยละ 59.44 ของผู้สำเร็จการศึกษาทันตแพทยศาสตร์จากสถาบันการศึกษาภาครัฐทั้งหมด ซึ่งมีประมาณ 700 คนต่อปี ประกอบกับส่วนราชการหรือหน่วยงานนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข มีตำแหน่งรองรับและคัดเลือกทันตแพทย์คู่สัญญาไปปฏิบัติงานชดใช้ทุนลดลง ทำให้กระทรวงสาธารณสุขต้องรับทันตแพทย์คู่สัญญาส่วนที่เหลือทั้งหมดเข้าปฏิบัติชดใช้ทุนในส่วนภูมิภาคประมาณ 612 คนต่อปี ซึ่งรวมถึงผู้สำเร็จการศึกษาทันตแพทยศาสตรบัณฑิตที่ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันตกรรมประมาณ 100 คนต่อปี ส่งผลให้กระทรวงสาธารณสุขต้องรับทันตแพทย์คู่สัญญาเกินความต้องการภายใต้เงื่อนไขสัญญาแบบเดิม